คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ที่มีนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น เป็นประธาน ได้มีวาระการะประชุม พิจารณาสถานเอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์คัดค้านมติของกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เรื่องการพิจารณาแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอมเป็นผช.ผบ.ตร. ตามที่นายพีรพันธุ์ พาลุสุ ส.ส.เพื่อไทยเป็นผู้เสนอ ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีบุคคลเข้าร่วมชี้แจง ได้แก่ พล.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), นายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายประวิตร์ ชัยมงคล อธิบดีกรมเอเชียใต้ตะวันออกกลางและแอฟริกา, พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ ผู้บัญชาการสำนัก ก.ตร. โดยนายพีรพันธุ์ กล่าวว่า ขอให้กมธ.ต่างประเทศพิจารณาในประเด็นแถลงการของรัฐบาลซาอุฯ ซึ่งแถลงการณ์นั้นได้ออกมาเป็นฉบับที่ 3 แล้วและแม้ว่าจะไม่ระบุหรือเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย แต่ทางรัฐบาลซาอุฯ มีความกังวลเรื่องคดี แม้การตั้ง พล.ต.ท.สมคิดรัฐบาลไทยจะระบุว่าได้ให้ความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท.สมคิด แต่ตนอยากให้พิจารณาดูว่าระหว่างการให้ความเป็นธรรมคนเพียงคนเดียวและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะเลือก เอาอย่างใด
“ เรื่องนี่คล้ายกับที่รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ความเป็นห่วงไปยังรัฐบาลกัมพูชา กรณีที่แต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งผมอยากให้กรรมาธิการการต่างประเทศช่วยพิจารณา ศึกษาข้อเท็จจริงในด้านต่างๆ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง” นายพีรพันธุ์ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่นายพีรพันธุ์ พูดจบทางกมธ.ต่างประเทศ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมอยู่ฟังประชุม โดยนายต่อพงษ์ กล่าวว่า จะแถลงผลการประชุมภายหลัง เพราะประเด็นนี้มีความอ่อนไหว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.แถลงถึงกรณีประเทศซาอุดิอาระเบียแสดงความไม่พอใจต่อการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ. 5 ให้ดำรงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ทั้งๆ ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของนายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียว่า เรื่องนี้ประเทศไทยไม่ควรชะล่าใจ ควรไปถามฑูตไทยที่ประจำอยู่ประเทศซาอุฯ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยประเทศซาอุฯ ได้จัดชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้มาอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อมูลว่า นายอัลรูไวรี่ถูกนำศพไปทำลายที่จังหวัดชลบุรี สาเหตุที่ยังไม่ลดสัมพันธ์ทางการฑูตในวันนี้ เพราะยังรอดูท่าทีที่แน่ชัดหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยลดความสัมพันธ์มาแล้ว 1 ครั้ง จากที่มีเอกอัครราชฑูตก็เหลือเพียงอุปฑูต ที่สำคัญที่สุดคือ วันนี้ผู้ที่เดือดร้อนที่สุดคือชาวไทยมุสลิมที่จะต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์อาจจะไม่สามารถเดินทางไปได้อีกต่อไป รัฐบาลกำลังเอาคนๆ หนึ่งไปแลกกับพี่น้องมุสลิมทั้งประเทศ อยากให้ทบทวนเรื่องนี้ให้ดี
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1516 ครั้ง