เมื่อ 11 ก.พ. กัลฟ์นิวส์รายงานว่า ศาลดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตัดสินให้การแต่งงานของเจ้าบ่าวผู้ดำรงตำแหน่งทูตชาติกลุ่มอาหรับ กับสาวดูไบเป็นโมฆะ หลังจากเจ้าบ่าวพบว่า เจ้าสาวมีหนวดและตาเข โดยเป็นคนละคนกับที่แม่ของหญิงสาวเอารูปให้ดู
การแต่งงานถูกล้มเลิกไปกลางคัน เมื่อเจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้าเพื่อจูบเจ้าสาว และต้องตกตะลึงว่า เจ้าสาวนอกจากจะตาเหล่แล้วยังมีหนวด โดยที่ผ่านมาในการนัดพบกันของทั้งคู่ หญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้าของสตรีมุสลิมไว้ตลอดเวลา จึงไม่เคยเห็นโฉมหน้า
“เจ้าบ่าวผงะด้วยความตกใจมาก” แขกผู้ร่วมงานวิวาห์เล่าถึงเหตุการณ์ และว่าความจริงแล้วเจ้าสาวเป็นคนดี ทำงานเป็นแพทย์ หาคนที่เหมาะสมแต่งงานได้ยาก จนหญิงสาวเข้าสู่วัย เลข 3 นำหน้า แต่สิ่งที่เจ้าบ่าวเห็น เป็นเหตุผลว่า ทำไมเจ้าสาวถึงคลุมหน้าไว้ตลอดเวลาที่พบกัน พอเจ้าบ่าวเห็นดังนั้นก็ตรงรี่ไปที่ศาลเพื่อขอหย่าทันที ปล่อยให้เจ้าสาวยืนร้องไห้น้ำตาท่วม
ในคดีดังกล่าว เปิดเผยเพียงว่า เจ้าบ่าวอยู่ในวัยเลข 4 นำหน้า ไปประจำการมาแล้วทั่วโลก รวมถึงในกรุงปารีส ฝรั่ง เศส เจ้าบ่าววิวาห์ล่ม ให้การต่อศาลว่า แม่ของหญิงสาวหลอกลวงตนให้เข้าใจผิดด้วยการเอารูปน้องของเจ้า สาวไปให้พ่อแม่ของฝ่ายเจ้าบ่าวดู ซึ่งคนที่อยู่ ในภาพหน้าตาสวยกว่านี้ ส่วนเจ้าสาวตัวจริงเป็นอีกคน
ด้านศาลตัดสินให้การแต่งงานเป็นโมฆะ แต่ไม่อนุญาตให้เจ้าบ่าวเรียกเงินชดเชย 130,000 ดอลลาร์ หรือราว 4 ล้านบาท เป็นค่าของขวัญแต่งงานที่ซื้อให้เจ้าสาว ไม่ว่า อาหาร เครื่องดื่ม รถวิวาห์ และเครื่องประดับ ตอนแรกทีมทนายของเจ้าบ่าวยังยื่นข้อเสนอให้เจ้าสาวไปตรวจว่าฮอร์โมนผิดปกติหรือไม่ ซึ่งผลออกมาว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1941 ครั้ง