วอชิงตัน: สำนักงานศาลยุติธรรมสหรัฐอเมริกาเผย 11
ประการที่อาจเป็นต้นเหตุความขัดแย้งและการเลือกปฏิบัตืภายใต้กฎหมายปี 2000
และสิทธิของการถือครองที่ดินของมุสลิมอเมริกา ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ภายใต้กฎหมายส่วนกลางและเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับศาสนาที่เป็นชนกลุ่มส่วนน้อย
ตามรายงายข่าวความขัดแย้งต่อต้านมัสยิด ภายระยะเวลา 10 ปี
ที่ผ่านมามีเรื่องความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิลามและเกี่ยวกับสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ,โบสถ์,หรืออาคารใดๆที่เป็นส่วนของศาสนา
ศาลยุติธรรมระบุว่าทั้งหมดมี 18 คดี ในจำนวนนั้น 8
คดีเป็นคดีที่พึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง หรือภายหลังที่มีการประกาศว่าจะมีการก่อสร้างศูนย์กลางอิสลามในอเมริกาใกล้ๆอาคารเวืลด์เทรดเซ็นเตอร์
รวมทั้งความขัดแย้งที่เกิดการฉวยถือโอกาสของนักการเมืองที่จะเล่นงานฝ่ายตรงข้อท
ล่าสุดผู้นำศาสนาออกมารับผิดชอบเรื่องแผนการเผาอัลกุรอานโดยไปกดดันประธานาธิบดีให้เปิดกว้างด้านสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมด้านการนับถือศาสนาและกิจกรรมของศาสนา
ตามรายงานข่าวไม่ได้กล่าวถึงแผนการก่อศร้างศูนย์กลางอิสลามในนิวยอร์กหรือที่ใช้ชื่อว่า”โดบาเฮาวส์” Cordoba house ศาลได้ปฏิเสธที่จะถึงเรื่องนี้
เจ้าหน้าที่ศาลคนหนึงได้กล่าวว่า “ใกล้ย่างเข้าปีทีสิบของการโจมตี 11/9 ที่จริงมุสลิมอเมริกันยังมีความพยายามหาหนทางที่จะให้คนอเมริกันเห็นว่าเขาคืออเมริกันเท่ากัน
แต่เราต้องยอมรับความขัดแย้งก็ยังคงเกิดขึ้น”
“เราต้องพยายามลดความตึงเครียดให้ได้”
ในรายงานได้ระบุด้วยว่าปีนี้เป็นปีที่ 10
ของกฎหมายการครองที่ดินที่ใช้อยู่ซึ่งร่างมาในสมัยของประธานาธิปดีบิล คลิงตัน
กฎหมายได้มอบอำนาจให้ศาลยุติธรรมมีสิทธิตัดสินใจมอบหรือยึดคืนสถานที่ใดๆ
ได้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจหรือโรงเรียน ที่อยู่สำหรับคนไม่มีที่พักอาศัย
ศาลระบุจากการสำรวจพบว่ามี 51 คดีภายไต้กฎหมายปี 2000 ในจำนวนนี้ 7
คดีที่มีผลต่อศาสนา อิสลาม 6 คดี ยิว และ3 คดี พุทธ 31 คริสเตียน
มีอยู่ 7 คดี ที่ศาลยุติธรรมที่ ตัดสินไปแล้วและนำไปสู่การชดเชยไปแล้วหลายล้านดอลล่า
http://in.reuters.com
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1570 ครั้ง