พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทยอีกประมาณ 20 คน จะย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยเพื่อร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับเพื่อน ส.ส. ก็เห็นว่าหากจะมี ส.ส.ย้ายพรรคออกไปอีกก็คงไม่เกิน 2 คน เพราะวันนี้การเมืองพัฒนาไปไกล และประชาชนจะเลือก ส.ส.ตามนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งหากรู้ว่าย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้วจะสอบตก ก็คงไม่มีใครกล้าย้ายพรรค
“ในขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยมีกระบวนการที่จะสร้างพันธมิตรทางการเมือง ซึ่งมีรายชื่อของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นหนึ่งในรายชื่อคนที่จะพรรคเพื่อไทยจะดึงมาเป็นเครือข่ายพัมธมติรทางการเมือง เพราะพล.ต.สนั่น เป็นผู้ใหญ่ และเป็นถึงรองนายกฯ ซึ่งหากพล.ต.สนั่นตกลงมาทำงาน ก็จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคเดียว เช่นกันกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ”
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.เพื่อผลักดันพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล และกระแสข่าวการเปลี่ยนขั้วการเมืองอีกครั้ง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนเพิ่งได้พบกับ นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และให้กำลังใจไป ซึ่งเชื่อว่าคงไม่มีการเปลี่ยนขั้ว เพราะวันนี้รัฐบาลก็ยังอยู่สงบสุขดี จึงไม่เชื่อว่าจะมีการยุบสภาหรือมีการสลับขั้วการเมืองในระยะเวลาอันใกล้นี้
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ แกนนำทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ประเมินว่ารัฐบาลจะตัดสินใจยุบสภา ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยควรเร่งแสดงความชัดเจนเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า สมาชิกพรรคบางคนเห็นว่า หากมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ เราก็ควรกำหนดตัวบุคคลที่จะมาเป็นฝ่ายบริหารและดูแลด้านต่างๆ ของรัฐบาล แต่ในส่วนของคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ส.ส.ส่วนใหญ่ยังเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะพรรคมีข้อจำกัดจากการ ที่เคยถูกยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นสมาชิกส่วนใหญ่ จึงเห็นว่าคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ควรเป็น ส.ส. เพื่อป้องกันการถกยุบพรรคอีกครั้งหนึ่ง
“ผมคิดว่าระยะเวลาอย่างน้อยอีก 1 ปีจากนี้ไปถึงจะมีการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้รัฐบาลยังอยู่ในอำนาจแบบเข้มแข็ง จึงไม่มีเหตุที่จะต้องยุบสภา เพราะด้านการข่าวผมได้ข่าวมาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ถูกยุบพรรค จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยุบสภา เพราะถ้าเป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ผมก็คงเชื่อว่าจะถูกยุบ แต่บัดนี้บ้านเมืองเราอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติธรรมดา ผมจึงเชื่อว่าไม่ยุบแน่” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ในพรรคเพื่อไทยมีผู้ที่เหมาะสมจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายคน แต่แกนนำพรรคคนสำคัญอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยและ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งชัดเจนแล้ว ขณะนี้จึงมีเพียง นายมิ่งขวัญ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ปฏิเสธ ซึ่งตนก็สนับสนุนนายมิ่งขวัญ เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ หากสถานการณ์การเมืองมั่นคงแล้วเราก็ต้องแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ แต่หากสถานการณ์การเมืองยังวุ่นวายอยู่แบบนี้ ตนก็ไม่ทราบว่านายมิ่งขวัญจะยินดีรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาทำงานตามปกติที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 โดยนายสุเทพ ได้ยิ้มทักทายกลุ่มผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเอง และเปิดเผยว่าจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.)
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเจอนายกรัฐมนตรีก่อนหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา ผู้สื่อข่าวแซวว่าต้องเลี้ยงส่งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ดีเหมือนกัน แต่ต้องให้สื่อเป็นคนเลี้ยงส่ง เพราะหากให้ตนเองเลี้ยงส่ง เดี๋ยวถูกร้องอีกว่าเลี้ยงล่วงหน้า”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงไปพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีเมื่อไหร่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนจะลงไปคืนนี้ เพื่อเตรียมลงสมัครในวันพรุ่งนี้ และในการสมัครก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า วันที่ 8 ต.ค.ที่จะไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งกี่โมง มีการดูฤกษ์ยามอะไรพิเศษหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่มีฤกษ์อะไร
ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้เตรียมยื่นใบลาออกกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ไปยื่น หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เดินทางกลับจากประเทศเบลเยียม ซึ่งจะถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 06.25 น. ส่วนนายสุเทพ จะเดินทางไปจ.สุราษฎร์ธานีในคืนนี้เพื่อเตรียมตัวไปสมัครรับเลือกตั้งส.ส.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 8 ตุลาฯ ซึ่งเป็นวันสมัครวันสุดท้ายเช่นกัน