พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก กล่าวว่า หลังจากที่นายอุเทน พาอินทร์ และนางคำดี ชะวารี สองสามีภรรยาเจ้าของห้องมาให้ข้อมูลต่างๆ โดยนายอุเทนได้ซัดทอดต่อไปยังผู้ชายอีก 2 คน คือ นายสุขสรรต์ รังวิเรนทร์ และนายปรีดา แก่นโพธิ์ น้องชายของนางคำดี แต่เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงชายอีก 2 คนดังกล่าวได้ จึงได้ทำการเรียกผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับห้องพักดังกล่าวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อทำการสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยว่าตรงกับคำให้การของนายอุเทนหรือไม่
ออกหมายจับมือซุก RPG
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติออกหมายจับ นายสุขสรรค์ รังวิเรนทร์ ในข้อหามีอาวุธ และเครื่องกระสุนปืน รวมถึงวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ตามที่พนักงานสอบสวน สน.บางรัก ยื่นคำได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับ หลังเจ้าหน้าที่ตรวจยึดเครื่องยิงอาร์พีจี กระสุนอาร์พีจี 4 ลูก ปืนอาก้า และกระสุนอีก 750 นัดได้จากห้องเช่า ในอาคารพาณิชย์ ใกล้ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเก่า ย่านสะพานเหลือง
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้พบหลักฐานสำคัญภายในห้องเช่า เป็นใบเสร็จเอทีเอ็ม และกล่องใส่โทรศัพท์ ที่ระบุชื่อว่าเป็นของนายสุขสรรค์ ตกอยู่ในห้องเช่าดังกล่าว รวมทั้งจากการสอบปากคำ นางคำรี ชวารี ซึ่งเป็นภรรยาของ ผู้เช่าห้องคนแรก ได้ระบุว่า นายสุขสันต์ เป็นเพื่อนกับน้องชาย และมาเช่าห้องพักต่อจากตน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมนายสุขสรรค์แล้ว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ จะนำเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี ที่ตรวจพบในห้องดังกล่าว มาเปรียบเทียบกับกรณีที่คนร้ายยิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม (กห.) ว่าเป็นเครื่องยิงระเบิดจากกระบอกเดียวกันหรือไม่
เพื่อไทยเชื่อจัดฉาก
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน สส..ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังมีการตรวจค้นพบอาวุธสงคราม ใกล้ที่ทำการพรรคเก่า โดยระบุว่า วันอังคารนี้ พรรคจะมีการประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อวันก่อนได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งก็ได้หารือกัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า พรรครักษาระบอบประชาธิปไตย ไม่มีแนวคิดใช้อาวุธ แต่หากเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่ใช่หน้าที่ของคนในพรรคที่จะไปยุ่งเกี่ยว
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัว นายสุชาติ กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบห้องเช่าดังกล่าวมีการเปลี่ยนมือตกทอดไปจากคนที่เคยทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้พรรคไปแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าเป็นน้องชายของ รปภ. คนดังกล่าว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กรณีการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังหน่วยข่าวกรอง ออกมาให้ข่าวว่า จะมีการป่วนเมืองและพอให้หลังได้ไม่นาน ก็มีการจับกุม ซึ่งดูเหมือนเป็นการจัดฉากมากกว่า และหากเป็นเช่นนั้นจริง การปรองดอง คงเกิดได้ยาก
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2062 ครั้ง