นายพิเชษฐ สถิรชวาล เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ได้มีหนังสือของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ที่พิเศษ 5 / 2553 เรื่อง ให้งดการประชุมคณะกรรมการกอท. โดยส่งให้กับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ทราบทุกคนและทำสำเนาส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยด้วย
โดยสาระสำคัญของหนังสือระบุว่า ตามที่ประชุมกอท.ครั้งที่ 9 /2553 ได้ให้ นายพิเชษฐ พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการกอท. และมีมติให้ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เป็นเลขาธิการ กอท เป็นการกระทำผิดกฎหมาย และเป็นโมฆะเสียเปล่าตั้งแต่ต้น เพราะไม่มีระเบียบกฎหมายใดรองรับ ไม่มีผลทางกฎหมายให้ นายพิเชษฐ ต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งแต่อย่างใด หนังสือดังกล่าวลงนามโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ในฐานะเลขาธิการกอท. และได้ออกหนังสือ หลังจากที่พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ได้ออกหนังสือเชิญประชุม กอท. ซึ่ง นายพิเชษฐ์ ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หนังสือของนายพิเชษฐ ชี้แจงว่า ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย นั้นเป็นตำแหน่งที่กฎหมายไม่ได้กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งไว้เป็นพิเศษ การดำรงตำแหน่งดังกล่าวจึงมีวาระคราวละหกปี จะพ้นจากตำแหน่งได้ก็ต่อเมื่อพ้นจากความเป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ลาออกจากตำแหน่งไปเองใด ฉะนั้นการที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ได้ออกหนังสือเชิญประชุม จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งห้าม พล.ต.ต.สุรินทร์ กับพวกเข้าที่ทำการของเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจแล้ว
นอกจากนี้ทางนายพิเชษฐ ต้องการที่จะดำเนินการทางคดีแพ่ง และอาญากับคณะผู้ตรวจสอบ และคณะที่ปรึกษากระบวนการฮาลาล ก่อน เพราะส่อเค้าในการทุจริต ส่วนการประชุม กอท.นั้น ทาง นายพิเชษฐ์ จะเป็นผู้ออกหนังสือเชิญประชุมเอง
ท้ายหนังสือของนายพิเชษฐ ยังระบุว่า หากมีการฝ่าฝืนประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และมีการเบิกจ่ายเงินขององค์กรให้กับผู้เข้าร่วมประชุม หรือ ค่าใช้จ่ายใดๆ อันเนื่องมาจากการออกหนังสือเชิญประชุมของ พล.ต.ต.สุรินทร์ จะถือว่าบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นตัวการร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายในคดีทั้งทางแพ่ง และ อาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเคร่งครัด
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 943 ครั้ง