ธนาคารอินเวต์คอร์ป บีเอสซี ของบาห์เรนวิเคราะห์ว่า
นักลงทุนสถาบันในภูมิภาคตะวันออกกลางจะเพิ่มการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์
มากขึ้นในปีนี้เพื่อกระจายการลงทุนและรักษาระดับผลตอบแทน
คาหลิด อัล รูไมฮี กรรมการผู้จัดการของอนเวต์คอร์
จำเพาะเจาะจง (Placement) กล่าวในที่ประชุมในดูไบวานนี้ (16 ก.พ.) ว่า
โดยปกติแล้วตะวันออกกลางมั
ที่แล้วนักลงทุนได้
ทั้งหมดของเฮดจ์ฟั
ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2008 ปัจจุบันอินเวสต์คอร์ปบริหารเงิ
ล้านดอลลาร์ในกองทุนแห่งกองทุ
หลังจากมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้
โดยเงินจำนวนดังกล่าวมาจากสถาบั
นายคาหลิดกล่าว
“คุณจะเห็นการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์
นายคาหลิดกล่าว “เราหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี
เนื่องจากตลาดโลกในปีนี้น่าจะยั
ประเทศอาหรับใน
ตะวันออกกลางผลิ
ขณะเดียวกันยังเป็นที่ตั้
Wealth Funds) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายๆแห่งด้
Investment Authority (ADIA), Kuwait Investment Authority (KIA), Qatar
Investment Authority (QIA) โดยทั้ง 3 แห่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริ
ประมาณ 328,000 228,000 และ 58,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2008 ตามลำดับ
จากตัวเลขประมาณการของนั
นายคาหลิดยังเพิ่มเติมอีกว่า นักลงทุนสถาบันที่เป็นภาครัฐ
ซึ่งรวมถึงที่ลงทุนในกองทุ
มักจะจัดสรรเงินระหว่าง 5-10% ไปลงทุนในการลงทุนทางเลือก (การลงทุนทางเลื
โดยมากจะหมายถึง Hedge Fund และ Private Equity)
ตัวเลขที่อินเสต์คอร์
ลูกค้าอาหรับในตะวันออกกลางได้
ล้านดอลลาร์ลงในเฮดจ์ฟันด์ ขณะที่บริษัทได้ลงเงินเพิ่มอี
1,000 ล้านดอลลาร์
นายคาหลิดได้ประเมินว่า นักลงทุนจากภูมิภาคตะวั
อกกลางและแอฟริกาได้เป็นเจ้
ล้านดอลลาร์ ของเงินลงทุนทั้งหมดของเฮดจ์ฟั
อินเวต์คอร์ปรายงานผลกำไรสุทธิ
ปี 2009 เทียบกับผลขาดทุน 220 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2008
ธุรกิจของอินเสต์คอร์ปมีตั้งแต่ Private Equity, กองทุนอสังหาริมทรัพย์,
กองทุนในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี และกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อรองรั
โตในภูมิภาคตะวั
ที่มา Bloomberg
http://www.bloomberg.com/apps/