วันที่ 19 ตุลาคม สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองชัยภูมิ เวลา 07.00 น. ที่บริเวณหน้าเจ้าพ่อพญาแล หน้าโรงพยาบาลและวัดชัยประสิทธิ์ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว สถานที่ราชการทั้งศาลากลาง สถานีตำรวจ น้ำท่วมบันไดขั้นที่สามแล้ว ทั้งนี้ น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าร่วมตึกผู้ป่วยนอก เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลัง ขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือ หนีน้ำ แต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานยากมาก เพราะน้ำท่วมขยายวงกว้าง ถึงปากทางเข้าชุมชนกุดแคน หัวถนน และหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิรวม ชุมชนหนองสังข์ ต้องอาศัยเรือท้องแบน และรถบรรทุกที่ทางราชการ ขับเวียนมารับส่ง
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองชัยภูมิ ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา เริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำจากลำปะทาวได้ไหลมาถึงตัวเมืองแล้ว ถนนเกือบทุกสายเป็นอัมพาต รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ เทศบาล อส.และตำรวจต้องนำรถรับส่งมาวิ่งบริการประชาชน ขณะที่บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ น้ำท่วมสูง คนไข้ หมอ พยาบาล เข้า-ออก ลำบาก เทศบาลเมืองชัยภูมิ ต้องสร้างสะพานชั่วคราว ให้คนเดินข้าม ตลอดทั้งคืน ส่วนชาวบ้านในชุมชนหนองบ่อ ซึ่งถูกน้ำท่วมมาหลายวัน ความเป็นอยู่เริ่มลำบาก ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิต้องตั้งโรงประกอบอาหารที่ศูนย์เยาวชน ไว้บริการชาวบ้านวันละ 3 มื้อ
ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล้นแนวกระสอบทรายเข้าท่วมชุมชนโรงเรียนวัดมะขาม และวัดศาลเจ้า อ.เมืองปทุมธานี ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง บริเวณประตูสูบน้ำคลองเชียงราก ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง น้ำยังหลากเข้าท่วมถนนวัดโพธิ์เลื่อน-โรงสูบน้ำประปานครหลวง และเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ชั้นใน เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถแบ็กโฮขุดดินเป็นแนวกั้นนำแทนกระสอบทราย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ต.ค. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรี และส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทำพิธีปล่อยขบวนรถขนสิ่ง-ของบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจำนวน 15 คันรถกระบะ ซึ่งจะบรรจุไปด้วยอาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง เสื้อผ้า ไฟฉายกระดาษชำระและน้ำดื่ม โดยนายชวรัตน์ ได้ควักเงินส่วนตัวสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีก 2 แสนบาท โดยนายชวรัตน์ กล่าวว่าสิ่งของที่ผู้ประสบภัยกำลังต้องการคือของใช้ประจำวันและอาหาร ซึ่งศูนย์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้นก็อาจจะใช้เป็นศูนย์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในฤดูหนาวด้วย เพราะกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ได้เตือนมาว่าจะหนาวที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งก็ต้องมีการเตรียมการดูแล
นายชวรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการการช่วยเหลือด้านงบประมาณนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนเพราะในที่ประชุม ครม. กระทรวงการคลังได้แจ้งว่าการเพิ่มจำนวนเงินนฉุกเฉินจากเดิม 50 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาททั้งในจ.นครราชสีมาและจ.ลพบุรีนั้น เรียบร้อยแล้ว และในจังหวัดอื่นๆ ก็จะดำเนินการแบบเดียวกัน เพราะสำนักงบประมาณ ได้รับทราบและเตรียมการเอาไว้แล้ว และสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ได้ข่าวว่าเพิ่มมากขึ้นก็อาจจะทำให้งบประมาณเบื้องต้นนั้นไม่พอ
เมื่อถามว่ารายงานสถานการณ์น้ำท่วมมีมากขึ้นหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า จำนวนจังหวัดนั้นตนไม่ได้รับรายงาน แต่จำนวนพื้นที่ที่น้ำท่วมนั้นก็ประมาณ 1 ใน 4 ของประเทศ สำหรับเรื่องข้อมูลผู้ประสบภัยนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีก็บอกในที่ประชุม ครม.ว่า ควรจะมีการแจ้งเตือนกับประชาชนให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประสบเหตุ
อีกด้านหนึ่ง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวในระหว่างการประชุมสภาฯว่า ได้อนุมัติให้นำเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ จำนวน 225,000 บาท และเงินที่เหลือจากการการบริจาคให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจาการปฏิบัติหน้าในความขัดแย้งที่ปราสาทพระวิหารจำนวน 522,000 บาท รวมทั้งสิ้น 747,000บาท ไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี ส่วนจังหวัดอื่นให้วิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านไปหารือว่าจะให้ความช่วยเหลือออย่างไรโดยให้เร่งนำข้อสรุปมารายงานเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ประกาศเตือนภัย “สภาวะอากาศของประเทศไทย” ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2553 มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือ แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดน้อยลงและเริ่มมีอากาศเย็น โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
สำหรับพายุไต้ฝุ่น “เมกี” (MEGI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปยังประเทศจีนตอนใต้ และ เกาะฮ่องกง ซึ่งพายุนี้จะ ไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย อนึ่ง ร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และ ภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนาแน่นในระยะนี้
ขณะนี้หลายพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมายังคงมีน้ำท่วมสูง แต่อยู่ในระดับทรงตัว และบางพื้นที่น้ำเริ่มลดระดับลงแล้ว ส่วนเข้าโรงพยาบาล มหาราชนครราชสีมา เทศบาลเมืองนครราชสีมา ระดับน้ำลดลงประมาณ 10 เซนติเมตร ระยะที่น้ำท่วมถอยร่นจากปากซอยเข้าไปในซอยประมาณ 30 เมตร โดยช่วงเช้ายังมีฝนตกโปรยปรายลงมาเล็กน้อย
ด้านคาราวานของปศุสัตว์นครราชสีมา ได้นำอาหาร เครื่องดื่ม และยาปฏิชีวนะ ไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอด่านขุนทด ปากช่อง และปักธงชัย พร้อมนำสัตวแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะในอำเภอปากช่องที่เลี้ยงโคนมจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรในจังหวัดนครราชสีมาได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 19,000 ราย มีจำนวนสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร อาทิ โค กระบือ สุกร แพะ ไก่ ได้รับความเสียหายกว่า 3,000,000 ตัว
ทั้งนี้ยังมีผู้ประสบอุทกภัยในหลายจุดที่ยังไม่ได้รับช่วยเหลืออย่างทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่ติดอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลเซนต์เมรี่ ที่ต้องลอยคอออกมาขออาหารและยารักษาโรคมา 5 วันแล้ว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1611 ครั้ง