จีนควรเพิ่มทองคำสำรองให้มากกว่านี้ หนังสือพิมพ์ที่บริหารโดยกระทรวงพาณิชย์จีนระบุในวันนี้ (27 ตุลคาม 2010) โดยอ้างอิงความเห็นจากนักวิจัย
หนังสือพิมพ์ International Business Daily ของกระทรวงพาณิชย์จีนได้อ้างอิงคำพูดของนาย Meng Qingfa นักวิจัยจากหอการค้าระหว่างประเทศของจีนหรือ China Chamber of International Commerce ว่า ในที่สุดแล้วจีนควรเพิ่มทองคำสำรองให้ไปอยู่ในระดับเดียวกับสหรัฐฯ
ล่าสุด สหรัฐฯมีทองคำสำรองอยู่ 8,133 ตัน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน สูงกว่าระดับของทองคำสำรองปัจจุบันของจีนที่ 1,054 ตันมากอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากเงินหยวนต้องการเป็นเงินตราสกุลหลักของโลกเหมือนดอลลาร์หรือยูโร จีนต้องมีทองคำสำรองปริมาณมหาศาลเพื่อหนุนเงินหยวน และทองคำสำรองที่ระดับ 1,054 ตันถือว่ายังถือว่าห่างไกลอีกมาก” นาย Meng กล่าว
เขายังเสริมอีกว่า จีนควรซื้อทองคำที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต่อไป และจีนควรสะสมทองคำสำรองให้มีจำนวนเท่ากับสหรัฐฯด้วยการเฉือนเอา 10% ของทุนสำรองมูลค่ากว่า 2.65 ล้านล้านดอลลาร์ไปเพิ่มปริมาณทองคำสำรอง
มุมมองของนาย Meng ไม่ถือเป็นตัวแทนจุดยืนของทางการจีน แต่ความสนใจของทางการจีนในการซื้อทองนั้นมีแต่จะเพิ่มขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงอย่างมากและราคาทองคำก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านน่ายอี้ กัง (Yi Gang) หัวหน้าสำนักบริหารการปริวรรตเงินตราแห่งรัฐหรือ SAFE (State Administration of Foreign Exchange) กล่าวเมื่อช่วงต้นปีว่า จีนจะรอบคอบในการเพิ่มทองคำเข้าทุนสำรอง โดยกังวลความเคลื่อนไหวใดๆของจีนในการเข้าซื้อทองอาจส่งผลเพียงแค่ให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเท่านั้น
ตอนนี้จีนแข่งกับอินเดียในการเป็นผู้บริโภคทองอันดับที่ 1 ของโลก ตอนนี้จีนถือเป็นผู้ผลิตทองรายใหญ่ที่สุดของโลกแล้วโดยจีนสามารถผลิตทองคำได้ 313.98 ตันในปีที่แล้ว สูงขึ้นเกือบ 50% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
จากข้อมูลของสภาทองคำโลกหรือ World Gold Council ส่วนแบ่งของจีนในความต้องการทองคำโลกพุ่งจาก 5% ในปี 2002 มาอยู่ที่ 11% ในปี 2009 และเหมืองทองของจีนจะถูกขุดจนหมดภายในอีก 6 ปีข้างหน้า
ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra
ไอดีข่าว nTOE69P08W
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2231 ครั้ง