เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิ สาระผล นายจักริน พัฒนดำรงจิตร ส.ส.ขอนแก่น นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน นายพงศกร อรรนพพร อดีตรมช.ศึกษาธิการพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตเพื่อนร่วมรุ่นตท.10 ร่วมเดินทางมาที่เทศบาลตำบล พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 500ชุด
โดยนายสมชาย กล่าวต่อผู้ที่มารับถุงยังชีพตอนหนึ่งว่า ของที่นำมามอบให้จำนวนไม่มาก แต่เราใจใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์คนเลือกให้เป็นฝ่ายค้านแต่อยากมาเป็นรัฐบาล เมื่อเป็นแล้วก็ทำงานไม่เป็นชาวบ้านเดือดร้อน พรรคเพื่อไทยเห็นว่าความห่วงใยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตอนสบายมีความสุขไม่เจอหน้ากันก็ได้ แต่ยามยากต้องมาดูใจกัน พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านที่มีส.ส.มากที่สุด แต่เราไม่มีงบประมาณ ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเดินตามเจตนารมณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ตนไม่ได้ปกป้องคนๆ เดียวแต่เราจะเอาอย่างอดีตนายกฯที่มีความมุ่งมั่นแก้ไขให้ประชาชน และสุดท้ายจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาให้ได้ เพราะคนอื่นมาทำวายป่วงหมด ตนไม่อยากพูดคำหยาบ แต่มันฉิบหายวายป่วง พรรคเพื่อไทยต้องเสียสละเพื่อประชาชน ไม่ใช่เอา 50ล้านบาท หรือเอางบ20ล้านบาทมาแลก ก็ไม่ต้องเอา ถ้าทำอย่างนี้เมื่อไหร่ประเทศเราจะเจริญ เพราะเงินเหล่านั้นมาจากหยาดเหงื่อ หยาดน้ำตาจากประชาชน วันนี้ส.ส.ไม่มีใครออกนอกพรรค ถ้าใครไม่ทำตามจะไปฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะส.ส.เขาไม่กลัวผม แต่เขากลัวพ.ต.ท.ทักษิณ
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีที่นายกฯยอมรับผิดที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยล่าช้าว่า ดีใจที่อย่างน้อยนายกฯออกมายอมรับ แต่เดิมทีนายกฯควรนั่งเป็นประธาน คชอ. และทุกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และเรียกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาประชุมเวิร์คช็อป บริหารจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยกำลังที่มีอยู่ คนเป็นผู้นำต้องรับผิดชอบ จะสบายไม่ได้ พื้นที่ไหนที่ถูกตัดขาด สื่อสารไม่ได้ ต้องใช้ทุกกลไกเข้าไปช่วยเหลือ
จากนั้นนายสมชายให้สัมภาษณ์กรณีพล.ต.สนั่น เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศนอร์เวยว่า ยังไม่ได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ทราบตามข่าว ส่วนความคาดหวังนั้น การเดินหน้าไปสู่ความปรองดองเป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่ได้ทำได้ง่ายขนาดนั้นเพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งฝ่ายประชาชน ฝ่ายผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าถามว่ามีความคาดหวัง 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ ไม่คิดว่าถึง 100เปอร์เซ็นต์ แต่ควรมีพยายามต่อไป หากพล.ต.สนั่น พบพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นเรื่องดี ปรองดองก็เป็นที่ดีแต่ต้องคุยกับทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ถ้างุบงิบเฉพาะฝ่ายจะถูกมองว่าเป็นการปรองดองเพื่อประโยชน์ให้ตัวเอง การปรองดองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ถ้าผู้ใหญ่ที่เดินเรื่องนี้ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อประเทศและประชาชนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์ ออกมาบอกว่าการปรองดองนั้นต้องไม่รวมถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และอภัยโทษ นายสมชายกล่าวว่า ถ้าจะปรองดองต้องใจกว้างหน่อย วันนี้ถ้าคิดปรองดองแต่ยังพูดเรื่องเงื่อนไขจะปรองดองได้อย่างไร แต่ไม่ได้บอกว่าใครใจแคบ ถ้าคิดทำงานใหญ่จะต้องใจกว้าง ถ้ามันตั้งเงื่อนไขอะไรเล็กๆน้อยๆ งานใหญ่ก็จะไม่สำเร็จ
ถามว่าพล.ต.สนั่น ควรกลับไปคุยกับผู้นำรัฐบาลก่อนหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ตนไม่ทราบแนวทางของท่าน เราเป็นส่วนหนึ่งที่อยากเข้าสู่การปรองดอง
ถามว่าส่วนตัวได้คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ และท่านมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ได้หารือเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เท่าที่ฟังส่วนตัวท่านไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร ท่านยอมลำบากได้แต่ขอให้ประชาชนสุขสบาย การที่พูดอย่างนี้ถือว่าเป็นผู้ใหญ่
ถามว่าคนในพรรคเพื่อไทยชูธงจะนำพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา ขณะที่อีกฝ่ายยังหวาดระแวงจะปรองดองกันได้อย่างไร นายสมชายกล่าวว่า ไม่เห็นว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาจะเป็นอุปสรรคหรือเงื่อนไขตรงไหน วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับหรือไม่ได้กลับ ท่านเองก็ไม่ได้สนใจแล้ว คิดว่ากลับมาท่านก็คงไม่อยู่เปล่าๆ แบบให้เปลืองข้าว เปลืองน้ำ ไม่อย่างนั้น 4 ปีที่จากไป ทำไมประชาชนยังอยากให้กลับมา ท่านไม่ใช่เฟืองจักรสำคัญ เป็นเพียงจุดเล็กๆ เท่านั้น รวมทั้งรัฐบาลก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เรื่องการปรองดอง รัฐบาลควรเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่ทำตัวเป็นอุปสรรคไม่อย่างนั้นก็จะเป็นจระเข้ขวางคลอง เรื่องเสื้อแดงหรือคดีความ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปแทรกแซง ก็ต้องปล่อยให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค
เมื่อถามถึงกรณีนายกฯระบุว่าจะให้กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ขอใช้เงินกองทุนยุติธรรมจำนวน 2ล้านบาท ประกันตัวนปช.ที่ไม่มีเงินค่าประกัน นายสมชายกล่าวว่า กองทุนนี้ตั้งขึ้นมาสมัยตนเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องการให้คนยากจน แต่นายกฯไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้ เพียงแต่ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ก็โอเคแล้ว
วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจในงานทอดกฐิน “9 วัด 9 ประเทศ” ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ประเทศนอร์เวย์ โดยปฎิเสธตอบคำถามกรณีที่พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อพูดคุยถึงแผนปรองดอง โดยพล.ต.สนั่น ตอบเพียงว่า ถ้าการปรองดองไม่ดีก็คงไม่ต้องทำ และ ไปทำบุญมาเท่านั้น อย่างไรก็ตามจะมีการชี้แจงเรื่องนี้ทั้งหมดอีกครั้งในวันที่ 9 พ.ย.
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1735 ครั้ง