มีรายงานจากพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยถึงการพบกันระหว่าง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นคนประสาน โดยพล.ต.สนั่น พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า และวิเคราะห์การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ รวมทั้งจะพุดคุยกับ นายบรรหาร ศิลปอาชา เพื่อดึงให้มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก เพื่อจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งจะมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่ง จะย้ายมาร่วมงานกับเพื่อไทยด้วย อีกทั้งจะเกลี้ยกล่อมให้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มาร่วมงานด้วย ซึ่งจะทำให้มีตัวเลข ส.ส.อยู่ในมือ 25-30 คน ไม่รวม ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ พล.ต.สนั่น จะต้องลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา และไปจัดตั้งพรรคใหม่ แต่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยจะต้องได้ ส.ส.เกิน 180 คน
แหล่งข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พรรคใดก็ได้ที่จะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่จะต้องไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น จะต้องไปพูดคุยกับทหาร เพื่อไม่ให้ปฏิวัติ และ จะต้องอธิบายให้สังคมไทยเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นคนไม่จงรักภักดี ถ้ากระบวนการดังกล่าวประสบผลสำเร็จ คนที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังเลือกตั้ง จะเป็นพล.ต.สนั่น หรือคนที่ พล.ต.สนั่น เลือก ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เล่นการเมืองไปอีกระยะหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงแนวทางสร้างความปรองดองที่ประเทศนอร์เวย์ ว่า นึกว่าท่านแถลงข่าวไปแล้ว ที่คุยกับตนได้คุยกันสั้นๆ เพราะท่านก็บอกว่าที่ไปเจอเป็นเพียงการพบปะกันสั้นๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่มีอะไรแล้วจะเดินทางไปพบทำไม เพราะเป้าหมายคือการปรองดอง ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ไปรับฟังครับ เมื่อถามต่อว่า แนวโน้มความปรองดองจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลยครับ เพราะว่า พล.ต.สนั่น บอกว่า เหมือนกับไปพบกลุ่มต่างๆ ก็ไปรับฟังความรู้สึก ความคิดเห็น และก็ยังไม่มีประเด็นเรื่องเงื่อนไข อะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า แสดงว่า ไม่มั่นใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีความปรองดองจริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามท่านครับ ท่านเป็นคนไปพบ เมื่อถามต่อว่า พล.ต.สนั่น ได้บอกหรือไม่ว่า ผลการไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็บอกว่าพูดกว้างๆ คือ พยายามดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะทำให้เกิดความปรองดอง ความสงบสุข อะไรอย่างนี้ แต่ยังไม่มีในเชิงที่เป็นข้อเสนอหรือเป็นเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า คิดว่า จะสามารถปรองดองกันได้จริง หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ ตนคิดว่า เราอย่าไปคิดว่าอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง มันอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ว่า เราต้องการให้บ้านเมืองเดินไปอย่างไร ถ้าคนส่วนใหญ่ยึดมั่นว่าความแตกต่างอะไรทั้งหลายมีกระบวนการทางกฎหมาย มีกระบวนการประชาธิปไตยอยู่ ไม่ไปใช้ความรุนแรง ตนคิดว่าทุกอย่างก็เดินหน้าได้
เมื่อถามว่า พล.ต.สนั่น ได้บอกหรือไม่ว่าจะทำอย่างไร ต่อไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ท่านก็บอกว่า ท่านเองต้องเดินสายพบอยู่ ก็ยังจะนัดพรรคประชาธิปัตย์อยู่เร็วๆ นี้ เมื่อถามต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากอะไรมาถึงนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีครับ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง ว่า ได้ยังครับ รับรองแล้วหรือครับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะดำเนินการ เมื่อถามต่อว่า จะต้องแจ้งพรรคร่วม หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
ด้านนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศนอร์เวย์ และได้พบกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางกรเมือง และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีก่อการร้าย ในวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า การจะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี จะต้องยืนยันถิ่นที่อยู่เพื่อขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนนั้น จะต้องมีความชัดเจนเรื่องสถานที่ในระดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องพิจารณา ส่วนประเทศนอร์เวย์ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ จะต้องตรวจสอบอีกครั้ง หากไม่มีสนธิสัญญา ถ้าจะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี ก็ต้องดำเนินการผ่านวิถีทางการทูตเพื่อขอให้ช่วยพิจารณาส่งตัวโดยใช้หลักต่างตอบแท
ส่วนก่อนหน้านี้มีข่าวระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า ได้กลับไปพำนักที่ประเทศเลบานอน ภายหลังได้พบปะและเจรจากับ พล.ต.สนั่น อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า เท่าที่ทราบทางการไทยกับเลบานอน ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ดังนั้นการจะขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี มีทางเดียวคือต้องดำเนินการผ่านวิถีทางการทูตเพื่อขอให้ทางการเลบานอนจับกุมตัว พ.ต.ท.ทักษิณไว้ ก่อนทางการไทยจะขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยวิธีการต่างตอบแทนระหว่างรัฐ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจให้ความร่วมมือของประเทศนั้นๆด้วย อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นจะต้องมีการยืนยันถิ่นที่อยู่ที่ชัดเจนก่อนว่า ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ประเทศเลบานอนจริง