เหตุนักลงทุนถอนเงินออกจากบรรดาสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงเพราะยัง
กังวลรัฐบาลต่างๆต้องดิ้นรนชำระหนี้
ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่ายอดขายพันธบัตรอิสลามจากต้นปีจนถึงวันที่ 23
กุมภาพันธ์ 2010 อยู่ที่ 564 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 2,500
ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2009
“มันเป็นเรื่องยากหากเราจะกลับมาเห็นตลาด Sukuk
กลับมาคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้งหากเรายังไม่เห็นมุมมองเรื่องความเสี่ยงดี
ขึ้นทั่วโลก” นายฮุสเซน ฮัสซาน หัวหน้าฝ่ายปรับโครงสร้าง (Head of
Structuring) ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ธนาคารดอยช์แบงก์
กล่าวในที่ประชุม ณ กรุงลอนดอน วานนี้ (23 ก.พ. 2010)
“ตัวอุตสาหกรรมไม่สามารถฟื้นกลับมาสู่จังหวะแห่งโอกาสได้ เมื่อมองหาทางออก
เมื่อการเงินอิสลามเป็นที่จับตามองของสาธารณะ เรากลับไม่สามารถหาทางออกได้”
ยอดขายพันธบัตรอิสลามหรือ Sukuk
ชะลอตัวลงต่อเนื่องเนื่องหลังจากเผชิญอุปสรรคและปัญหาต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการผิดนัดชำระหนี้บน Sukuk ครั้งแรก
ปัญหาการปรับโครงสร้างหนี้ของดูไบเวิร์ล
และปัญหาเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลหลายประเทศในยุโรปอย่างเช่น กรณีของกรีซ
“ยอดขาย Sukuk ในปี 2010 มีโอกาสต่ำลงกว่าเดิม
หากยอดขายทั้งปียังคงอยู่ในระดับเดียวกับปัจจุบัน” นายฮุสเซนกล่าว
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเหนือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่นักลงทุนต้องการเพื่อ
เสี่ยงลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่เพิมขึ้น 0.63% มาอยู่ที่ 3.27%
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2010 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของดัชนีตราสารหนี้ของ
JPMorgan Chase EMBI+ Index
ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นหลังจากปัญหาวิกฤตการคลังของกรีซปะทุ
ขึ้น
สร้างความวิตกกับนักลงทุนทั่วโลกว่าประเทศกำลังพัฒนาต่างๆอาจไม่สามารถชำระ
หนี้ได้
“สัญชาตญาณ”
“สัญชาตญาณของผมบอกว่า ยอดการออกพันธบัตรอิสลามจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้”
นายแฮริส เออร์ฟาน
หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การเงินอิสลามของบาร์เคลย์สกล่าวในที่ประชุม
“ขณะนี้มีหลักฐานต่างระบุว่า
ดีลต่างๆที่ชะลอตัวลงเมื่อปีที่แล้วกำลังกลับมาในตลาดอย่างช้าๆ”
มูดี้ส์ได้ออกมาเปิดเผยว่า บรรดาธนาคารใน UAE เป็นเจ้าหนี้ดูไบเวิร์ลจำนวน
55,000 ล้านเดอร์แฮม หรือราวๆ 15,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Standard &
Poor’s ระบุว่า ธนาคารในภูมิภาคนี้จะเผชิญ “ปีที่ยากลำบากอีกปี” ในปีนี้
เนื่องจากธนาคารต่างๆยังต้องต่อสู้กับปัญหาหนี้เสียและผลกระทบต่อเนื่องนัง
แต่วิกฤตการเงินปะทุขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ที่มา Bloomberg
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601104&sid=apjMmz0J7sco
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1261 ครั้ง