นายกฯ ยันไม่ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เพื่อแก้บาทแข็ง พร้อมขู่ส่วนราชการคืนงบเหลื่อมปี 5 หมื่นล้านบาท เอามาโป๊ะช่วยน้ำท่วม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2554 “ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยท่ามกลางความขัดแย้ง “ ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าท้ายโดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเร่งดำเนินการได้แก่ 1 เรื่องค่าเงินบาท โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนคนที่ หรือการตรึงค่าเงินเพื่อแก้ปัญหา เพราะเชื่อจะไม่สำเร็จ แต่จะเข้าไปแก้ปัญหาให้กับอุตสาหรรมรายกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ โดยได้ประสานความร่วมมือกับ เอดีบี ศึกษาเรื่องการเลี่ยงใช้เงินสกุลดอลล่าร์ในการทำการค้า ซึ่งเป็นแนวทางที่หลายประเทศกำลังศึกษาอยู่เช่นกัน
“ จะหารือกับบีโอไอบ่ายนี้เรื่องมาตรการในการสนับสนุนให้เอกชนเร่งลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรในช่วงที่เงินบาทแข็งค่า “ นายอภิสิทธิ์กล่าว
2. ปัญหาเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เช่นเรื่องประชาคมอาเซียน หรือAEC ที่ต้องเร่งให้ความสำคัญในช่วง 5 ปีหลังจากนี้เพื่อดึงเอสเอ็มอีให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และจับตาการรวบกันของ 9 ประเทศ ในข้อตกลง TTP ซึ่งมีเวียดนาม มาเลเซียและสิงค์โปร์ที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ไปแล้ว
3.การเดินหน้าข้อตกลงทางด้านการเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศ หรือ ข้อตกลง โฮเปนเฮเก้น ซึ่ง 1 ปีที่ผ่านมามีกว่า 130 ประเทศที่เข้าร่วม แต่ไทยยังเข้าไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภา ซึ่งเห็นว่าไทยควรเผื่อทางเลือกนี้ไว้สำหรับแหล่งทุนในการเปลี่ยนแปลงสู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4. ปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง ที่เตรียมประสานสำนักงบประมาณเพื่อดึงเงินงบเหลื่อมปีในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนกว่า 5 หมื่นล้านบาทคืน เพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการดึงงบกลางจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากงบกลางทั้งหมดจำนวนกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท หรือเกือบครึ่งของงบกลางมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม
“ เป็นครั้งแรกที่งบกลางปีหมดไปครึ่งหนึ่งแล้วภายใน2 เดือนแรก จึงได้ขอให้หน่วยงาน กระทรวงทั้งหมดปรับงบปกติให้เข้ามาช่วยเรื่องน้ำท่วม และได้ประสานให้สำนักงบไปดูงบเหลื่อมปีที่ไม่มีการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจำนวนกว่า 5 หมื่นล้านบาทให้รีบส่งคืน เพราะไม่คืนจะเข้าไปริบเอามาแน่ แต่อยากให้เสนอคืนก่อนเพราะไม่อยากดึงกลับเข้ามาเป็นเงินคงคลัง เพราะถ้าดึงเงินคงคลังมาใช้ ปี 54 ต้องตั้งงบคืนกระทบต่องบลงทุนปีหน้าอีก “ นายอภิสิทธิ์กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1366 ครั้ง