รูปภาพ : นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีนระหว่างการประชุมนายกรัฐมนตรีของชาติสมาชิกองค์กการความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้หรือ SCO ณ เมืองดูชันบี้ ประเทศทาจิกิสถานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2010 ที่ผ่านมา
ที่มา : สำนักข่าว Xinhua
นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีนเสนอ 6 ข้อเพื่อยกระดับความร่วมมือในเชิงปฏิบัติขององค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้หรือ SCO (Shanghai Cooperation Organization) ระหว่างการประชุมของชาติสมาชิกจัดขึ้น ณ เมืองดูชันบี้ ประเทศทาจิกิสถานวานนี้ (25 พฤศจิกายน 2010)
นายเวินกล่าวในระหว่างการประชุมนายกรัฐมนตรีชาติสมาชิก SCO ครั้งที่ 9 ว่า ชาติสมาชิก SCO ควรพึ่งพาพลังรวมหมู่ในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาคและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่ครอบคลุมและมีความสมดุล
นี่ไม่ใช่เป็นเพียงผลประโยชน์ของชาติสมาชิกทั้งหมดเท่านั้น แต่มันจะช่วยให้ SCO เป็นหนึ่งเดียวและเป็นที่สนใจต่อคนอื่นมากขึ้นด้วย นายเวินกล่าว
นายกฯจีนกล่าวว่า การปกป้องความมั่นคง เสถียรภาพ และ ความกลมเกลียวกันของภูมิภาคมีความสำคัญยิ่งในการยกระดับการพัฒนาของ SCO และ กระชับความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกันในหมู่ชาติสมาชิก SCO
ดังนั้น นายกฯเวินของจีนจึงได้เรียกให้ชาติสมาชิก SCO เพิ่มการประสานงานในเชิงยุทธศาสตร์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ยกระดับความไว้วางใจร่วมกัน และ ประสานการปฏิบัติและจัดตั้งกลไกลถาวรและมีประสิทธิผลในการปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างเป็นขั้นตอนและมีการปฏิบัติและมาตรการที่ครอบคลุมร่วมกันในการจัดการกับกับ “3 กองกำลังแห่งความชั่วร้าย” (three evil forces) อันได้แก่ พวกสุดโต่ง พวกแบ่งแยกดินแดน และ พวกผู้ก่อการร้าย ที่ได้ผลและหนักหน่วงกว่าเดิมและคงทนถาวร เช่นเดียวกับการจัดการกับการลักลอกขนยาเสพติดและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ข้อเสนอ 6 ข้อของนายเวินได้แก่
1. นายเวินเสนอให้ชาติสมาชิก SCO ยกระดับความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า
ชาติสมาชิก SCO ควรเคร่งครัดกับหลักการชี้นำโดยรัฐบาล กระตุ้นให้ธุรกิจขยายความร่วมมือตามกฎระเบียบการควบคุมตลาดและพึ่งพาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค นายเวินกล่าว
2. นายเวินเรียกร้องให้มีการขยายความร่วมมือด้านพลังงาน
“เราควรปกป้องความมั่นคงในการขนส่งพลังงาน ทำการพัฒนาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกัน และ ยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน” นายเวินกล่าว
3. นายเวินเรียกร้องให้มีการเร่งการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเช่น ทางหลวง ทางรถไฟ และทางด่วนข้อมูล เพื่อยกระดับการสื่อสารภายในภูมิภาค
4. ประเทศสมาชิก SCO ควรกระชับความร่วมมือด้านการเกษตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายเวินกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ชาติสมาชิกทำการวิจัยในการจัดตั้ง กลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารของ SCO (SCO Food Security Cooperation Mechanism)
“จีนมีความตั้งใจที่จะช่วยประเทศสมาชิก SCO อื่นๆในการจัดตั้งแปลงสาธิตการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (high-tech agricultural demonstration areas)” นายเวินกล่าว
5. นายเวินเรียกร้องให้มีการกระชับความร่วมมือในด้านการเงินและระบบการเงิน (Financial and Monetary Cooperation) ในหมู่ชาติสมาชิก SCO โดยเน้นว่า ชาติสมาชิกควรขยายช่องทางการจัดหาเงินทุนแก่ธุรกิจ ทำการวิจัยในการจัดตั้ง ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่ง SCO (SCO Development Bank) หารือกันถึงแนวทางใหม่ๆในการจัดหาเงินทุนและแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน และขยายความร่วมมือในการชำระค่าสินค้าเป็นเงินสกุลท้องถิ่น
ข้อสุดท้าย นายเวินเรียกร้องให้มีการเดินหน้าการสร้างศักยภาพและการแลกเปลี่ยนของประชาชนต่อประชาชนและวัฒนธรรม (People-to-People and Cultural Exchanges)
ประเทศสมาชิก SCO ควรปรับปรุงกลไกในการรับมือเหตุฉุกเฉินตามแนวชายแดน นายเวินกล่าว
“จีนประสงค์ที่จะสอนภาษาจีนให้กับเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบริหารให้กับชาติสมาชิกและจัดเทศกาลศิลปะเป็นครั้งแรกสำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสำหรับกลุ่ม SCO และ สร้างการสื่อสารและความร่วมมือกับชาติสมาชิก SCO ในด้าการแพทย์พื้นบ้าน” นายเวินกล่าว
ระหว่างการประชุม 1 วันนี้ นายกรัฐมนตรีของชาติสมาชิกตกลงที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการต่อสู้กับ “3 กองกำลังแห่งความชั่วร้าย” เพื่อปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค ยกระดับการประสานงานในด้านนโยบายเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการอำนวยความสะดวกการลงทุนด้านการค้าและกระชับความร่วมมือในการบรรเทาภัยพิบัติ การศึกษา และวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีของชาติสมาชิกกลุ่ม SCO ตัดสินใจที่จะจัดการประชุมครั้งถัดไปที่รัสเซีย
ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 สมาชิก SCO ประกอบไปด้วยจีน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน
นอกจากนั้นในการประชุมครั้งนี้ยังมีผู้เข้าร่วมจากสมาชิกสังเกตการณ์ของ SCO ด้วยได้แก่ อินเดีย อิหร่าน มองโกเลีย และ ปากีสถาน และรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานในฐานะแขกของประเทศเจ้าภาพด้วย
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday