สเต็กส์ น่ารับประทาน
ฟาฮาน่า อิตาเลี่ยน เรสเตอรองค์ ร้านอาหารอิตาเลี่ยนฮาลาลแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ได้ยืนยาวมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว ซึ่งกว่าจะถึงวันนี้ ได้ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย แต่ด้วยความอดทน จึงประสบความสำเร็จได้ และกำลังผ่องถ่ายสู่รุ่นลูก คริสติน่า โลกาเตลลี่
นุสรา มติภักดี เป็นผู้ก่อตั้งร้านอาหารแห่งนี้ ด้วยมีความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารอิตาเลียน ความต้องการเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่มุสลิมสามารถรับประทานได้
“เคยอยู่อิตาลี มา 11 ปี ก็ไปๆมาๆ เพราะมีสามีเป็นอิตาเลี่ยน ก็ได้มีโอกาสเข้าครัวไปช่วยเชฟทำอาหาร เลยได้เรียนรู้การทำอาหารอิตาเลี่ยน ฝึกทำจนได้รสชาติแบบอิตาเลี่ยน เพราะปกติเป็นคนชอบทำอาหาร ถูกปลูกฝังมาจากแม่ที่ชวนเข้าครัวตั้งแต่เด็ก ก็เลยคิดเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยน ตอนนั้นอยู่พนัสนิคม นั่งรถผ่านเห็นย่านพรีเมี่ยพระราม 9 น่าสนใจเลยเข้าไปติดต่อขอเช่า” นุสรา เล่าถึงที่มาของร้านอาหารอิตาเลี่ยน ฟาฮาน่า ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ตัดใหม่ ทางออกไปชลบุรี
นุสรา เปิดร้าน เมื่อ 9 ปีก่อน ซึ่งย่านพระราม 9 ตัดใหม่ค่อนข้างห่างไกลชุมชน มีแต่รถที่วื่งผ่าน แต่เธอ ก็กัฟันทน เพื่อนำพาร้านอาหารให้ยืนอยู่ได้
“แรกๆก็ไม่เวิร์ค บางวันขายได้ 350 บาท แต่ค่าใช้จ่าย ทั้งเงินเดือนลูกน้อง พ่อครัว วันละ 2,000 บาท ต้องควักเงินหมุน เราก็ขอดุอาร์(ขอพร)จากอัลเลาะฮฺ หลังละหมาด พอลงมา เห็นคนเต็มร้านเลย อัลเลาะฮฺช่วยจริงๆ อย่างตอนเปิดร้าน… ก่อนจะย้ายมาที่นี่ เคยเปิดอีกที่หนึ่ง เงินส่วนหนึ่งก็หมดไปกับการตกแต่งร้าน ไม่มีเงินไปซื้อของ อยู่ก็มีชาวตุรกีคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นลูกค้าที่ร้าน แวะเข้ามา ถามว่า จะให้เขาช่วยอะไรไม๊ น้ำตาไหลเลย อัลเลาะฮฺช่วยจริงๆ ได้เงินมา 200,000 บาท จึงได้เปิดร้าน”
นุสรา เลิกกับสามีจากอิตาเลี่ยน แต่เธอกับเขาก็ยังถือทรัพย์สินร่วมกัน อาทิ คอนโดมิเนียมที่พัทยา และที่อิตาลี แต่อดีตสามี เป็นคนดูแล ซึ่งเธอไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเงินตรงนี้เท่าไหร่ จะมีหยิบยืมมาใช้ในร้านบ้าง
นุสรา มติภักดี และบุตรสาว
“เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้านอยู่รอดได้ แต่สำคัญดิฉันคิดว่า คือความอดทนและขอพรจากอัลเลาะฮฺ ถ้าเป็นคนอื่นคงเก็บกระเป๋าไปแล้ว ไม่ทำแล้ว ดิฉันก็เคยคิดจะไม่ทำแล้วเหมือนกัน แต่เมื่อคิดว่า ต้องมุสลิมจะไม่มีอาหารแบบที่เราทำทาน ก็เลยกัดฟันทำต่า จนย่างเข้าปีที่ 6 ร้านจึงอยู่ตัวเลี้ยงตัวเองได้”
ฟาฮาน่า มีลูกจ้าง 15 คน เป็นพ่อครัวแม่ครัว 5 คน ซึ่งพ่อครัวแม่ครัวรับผิดชอบทำอาหารเฉพาะอย่าง อาหารอิตาเลี่ยน ก็มีแม่ครัวารับผิดชอบ 1 คน
“แม่ครัวบางคนก็อยู่กันมาตั้งแต่แรก ไม่ไปไหน เพราะเราอยู่กันอย่างพี่น้อง มีทองติดๆขัดๆบ้าง ก็ยังอยู่กัน อดทนช่วยงานกันมา ก็ถือว่า เป็นโชคดีของเรา”
การทำอาหารในร้านฟาฮาน่า แม้จะมีแม่ครัวอยู่แล้ว แต่นุสรา ก็ยังดูแลอย่างใกล้ชิด เธอจะเป็นคนวางงานให้แต่ละคนทำงาน รวมถึง จับจ่ายเอง
“ดิฉันคิดว่า หัวใจของการทำร้านอาหาร เจ้าของจะต้องดูแลใกล้ชิด ทำอาหารเองได้ จับจ่ายของเอง เวลาแม่ครัวมีปัญหา ร้านจะได้ไม่มีปัญหา แต่ของดิฉันไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้และกับลูกน้องก็ให้ใจทำให้เขาอยู่กับเรานาน แต่การที่เราเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดทำให้อาหารมีมาตรฐาน ในการปรุง เขาจะขึ้นซอส เราก็คุมรสชาติให้เขา บางอย่างเขาไม่กล้าปรุง ไม่กล้าทำ กลัวผิดพลาด เราต้องให้เป็นมาตรฐานไปก่อน อะไรไม่กล้า ก็ไม่ต้องทำรสชาติอาจเพี้ยนได้”
พิซซ่า สไตล์ อิตาเลี่ยน อาหารเวียดนาม
ฟาฮาน่า อิตาเลี่ยน เรสเตอรองค์ มีอาหารอิตาเลี่ยนครบทุกชนิด ทั้งพาสต้า สเต็ค พิซซ่า ซึ่งเป็นสไตล์อิตาเลี่ยน ที่มีแป้งบางๆ แตกต่างจากพิซซ่าอเมริกันที่คนไทยเคยชิน ซึ่งใช้แป้งหนา มีแคลลอรี่สูง รวมทั้ง ได้เปิดแผนกอาหารอาหารเวียดนาม เมื่อปีที่ 4 ของร้าน
“อาหารเวียดนาม เป็นอาหารสุขภาพ เพราะมีผักเยอะ ก็หาข้อมูลมาฝึกทำ แล้วให้คนชิม สูตรต่างๆ ก็ใช้วิธีการซื้อมาแล้วดมกลื่นเอาว่า มีอะไรผสมบ้าง อย่างน้ำจิ้มเขาฝช้ตับหมู เราก็ใช้ตับไก่ ก็ได้รสชาติที่อร่อยคนทานแล้วชอบ ที่ทำอาหารเวียดนาม เพราะไม่มีอาหารเวียดนามที่มุสลิมทานได้เลย ก็เลยตัดสินใจทำ ตอนแรกก็แยกร้านอีกห้องหนึ่ แต่ตอนหลังค่าใช้จ่ายสูงเลยรวมกันดีกว่า”
จากร้านย่านพรีเมียร์ พระราม 9 ล่าสุด ฟาฮาน่า ได้ขยายกิจการไปให้บริการลูกค้าที่สโมสรรัฐสภา มีร้านในสโมสร และบริการตามห้องประชุมสัมมนาในรัฐสภา ทำให้เธอต้องแบ่งคนจากร้านไปประจำที่รัฐสภา
“ส.ส.อันวาร์ สาและ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาคุยกับเราว่า อยากได้อาหารฮาลาลดีไปอยู่ในรัฐสภา ร้านที่สะอาด รสชาติอร่อย เราก็บอกว่า จะให้กู้ไปยืมเงินธนาคาร ให้ไปประกาศสงครามกับอัลเลาะฮฺ เรื่องดอกเบี้ย เราไม่ทำ เขาก็ให้ที่ปรึกษาหาเงินทุนมาให้ ก็ดูแลเรามาตลอด แต่ที่รัฐสภา ยังไม่อยู่ตัง แต่ก็เปิดให้บริการ เพราะค่าใช้จ่ายสูงเหมือนกัน อย่างในช่วงเสื้อแดงชุมนุม ก็ต้องปิดร้าน 2 เดือน เราก็ต้องรับผิดชอบบุคคลากรที่ทำงานตรงนั้น หรือช่วงปิดสมัยประชุมก็ขายได้เพียง 2 วัน“
“การบริหารที่รัฐสภา ไม่ง่าย เพราะคนจะกินเวลาเดียวกันหมด และเราต้องบริการหลายจุด ต้องจัดการให้ได้ ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน อัลเลาะฮฺทดสอบเราหมดว่า อดทนไม๊ และต้องแก้ไขทุกนาที จากตึกหนึ่งไปอีกตึก ต้องขนของทุกชิ้นไป เวลาประชุม สัมมนา ส.ส.ทางใต้ก็มาสั่ง แต่ไม่เฉพาะคนมุสลิม คนพุทธ ก็มาสั่ง เพราะของเรา ทำเร็ว สะอาด อร่อย ไม่มีผงชูรส บางคนเงินมีเงินไม่มาก อยากได้ถูกสั่งมา เราก็ต้องจัดการให้ ส่วนการบริกา นอกสถานไม่ได้เปิดบริการ เพราะ ทำไม่ไหว ก็ไม่ทำ จะทำให้ เสื่อมเสีย เสียคุณภาพ เราไม่ทำ ลูกค้าจะไม่มั่นใจในมาตรฐาน”
จากร้านอาหารอิตาเลี่ยน ย่านพรีเมียร์พระราม 9 จนไปให้บริการที่รัฐสภา ฟาฮาน่า กำลังจะเปิดสาขาในโรงพยาบาลโดยมีเป้าหมายที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ซึ่งมีมุสลิมจากต่างประเทศมาใช้บริการมาก
“ให้ ส.ส.อันวาร์ ช่วยประสานเรื่องสถานที่ เพื่อไปเปิดให้บริการฟาฮาน่า ย่านในเมือง ซึ่งจะให้ลูกสาว ซึ่งเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ไปบริหาร” เธอ พูดถึง คริสติน่า โลกาเตลลี่ ลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากสามีชาวอิตาลี่
คริสติน่า โลกาเตลลี่
คริสติน่า โลกาเตลลี่ พนักงานในร้าน
นุสรา มีลูก 2 คน เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกชายได้เสียชีวิต ด้วยโรคหอบเมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้เหลือลูกสาวเพียงคนเดียว ที่จะสืบทอดกิจการของเธอต่อไป
“เธอเรียนเกี่ยวกับธุรกิจการบิน แต่ไม่ให้ทำงานหรอก ให้มาช่วยงานที่ร้านนี่หละ ตอนเรียน เวลาปิดเทอมเขาก็ไปอิตาลีไปทำงานที่ร้านอาหารของอา ก็มีประสบการณ์ด้านนี้ เพราะได้เตรียมตรงนี้ไว้ให้เขา ตอนแรกก็เตรียมไว้สำหรับ 2 คน แต่เมื่ออีกคนไม่อยู่แล้ว เธอ ก็ต้องรับผิดชอบไปคนเดียว” |
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 5573 ครั้ง