เว็บไซท์หนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานอ้างเอกสารลับเกี่ยวกับไทย ที่รั่วออกมาจากบันทึกลับทางการทูตของกระทรวงต่างประเทศ ที่เว็บไซท์วิกิลี้คส์นำมาเผยแพร่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียเบ่งบานอย่างมากในช่วงทศวรรษนี้ หลังซบเซามาหลายปีในช่วงสงครามเย็น ส่วนหนึ่งเริ่มจากการเยือนระดับสูงในสมัยที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ไปเยือนรัสเซีย เมื่อปี 2545 และวลาดิมีร์ ปูติน ที่สมัยนั้นยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้เยือนประเทศไทย เมื่อปี 2546 ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้สนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในไทย ที่จะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ที่รัสเซียจะเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบในการผลิตกระไฟฟ้า ซึ่งรัสเซียนั้นปรารถนาที่จะได้เป็นหุ้นส่วนการเจรจาสุดยอดเอเชียตะวันออก หรือ EAS และขยายการส่งออกอาวุธมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเทศไทยยินดีอย่างยิ่งที่มีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเข้ามาท่องเที่ยวอย่างหนาตา แต่ก็ต้องรับมือกับผลกระทบข้างเคียงที่ไม่ต้องการ นั่นคือการเข้ามาสร้างเครือข่ายอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น พัทยาและภูเก็ต แต่ข่าวใหญ่ที่ได้รับความสนใจอย่างสุดของปี2551-2552 น่าจะเป็นเรื่องการจับกุมวิคเตอร์ บู้ท พ่อค้าอาวุธชาวรัสเซีย
เอกสารลับ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย กลับมาแนบแน่นกันใหม่ในช่วงปี 2545-2546 เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ให้ความสนใจที่จะทำข้อตกลงซื้ออาวุธจากรัสเซีย โดยแลกกับการที่รัสเซียต้องซื้อสินค้าเกษตรจากไทย และฝึกสอนให้ทหารไทย ที่ปัจจุบันต้องพึ่งพาระบบของสหรัฐ โดยเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณถูกโค่นอำนาจ และอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีคดีคอรัปชั่น เขาก็ยังเดินทางไปมอสโคว์ รวมถึงช่วง 2-3 ธันวาคม ปีที่แล้ว และได้พบกับนายกรัฐมนตรีปูตินด้วย
บันทึกลับระบุอีกว่า นโยบายต่างประเทศของไทยมีศูนย์กลางอยู่ที่สมาคมอาเซียน สหรัฐและจีน ทำให้รัสเซียมีพื้นที่น้อยมากต่อการสอดแทรกอิทธิพลเข้ามา นอกจากนี้ปูตินยังเต็มใจอ้าแขนรับ พ.ต.ท.ทักษิณในมอสโคว์ แต่รัฐบาลรัสเซียไม่ยอมยืนยันเรื่องนี้ ต่อสถานทูตไทยประจำกรุงมอสโคว์ มอสโคว์ แม้ว่าน้องชายของ พ.ต.ท.ทักษิณจะประกาศเรื่องนี้ต่อสื่อไทยและทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณกับคนใกล้ชิดของเขา ก็พูดกันอย่างเปิดเผยว่า รัสเซียไม่ค่อยจะปลื้มรัฐบาลไทยชุดนี้สักเท่าใด
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2062 ครั้ง