รูปภาพ : ธนบัตรหยวนจีนและดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา : Bloomberg
ธนาคารเอสเอซบีซีได้เริ่มให้บริการชำระค่าสินค้าระหว่างประเทศเป็นเงินหยวนแก่ผู้นำเข้าชาวอินเดียแล้ว นายสจ๊วต เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอชเอสบีซีอินเดียกล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
เดวิสกล่าวกับซินหัวระหว่างเข้าร่วมประชุมนายธนาคาร ณ นครมุมไบประเทศอินเดียว่า ขณะนี้ธุรกรรมที่รับชำระมีขนาดกลางและมันต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดสภาพคล่องมากกว่านี้ในการใช้เงินหยวน
การให้บริการการชำระค่าสินค้าระหว่างประเทศในรูปเงินหยวนช่วยให้ผู้นำเข้าสามารถจ่ายค่้าสินค้าในรูปรูปอินเดียวหรือหยวนจีนโดยไม่ต้องผ่านเงินดอลลาร์สหรัฐฯเลย ซึ่งช่วยลดต้นทุนธุรกรรมหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
จนถึงตอนนี้ เอชเอสบีซีได้ช่วยจัดการธุรกรรมเงินหยวนไปแล้ว 3 ธุรกรรมผ่านธนาคารเอชเอสบีซีในฮ่องกง นายบิล ซูซินสกี้ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของเอชเอสบีซีอินเดียกล่าว
นายซูซินสกี้กล่าวว่า ตอนนี้การชำระสินค้าด้วยเงินหยวนสามารถทำได้แค่ที่ฮ่องกงเท่านั้น และทางธนาคารก็กำลังรอการอนุมัติจากธนาคารกลางอินเดียเพื่อให้บริษัทอินเดียสามารถเปิดบัญชีเงินหยวนที่อินเดียได้
เมื่อทางการอนุมัติ ธุรกรรมการชำระค่าสินค้าในรูปเงินหยวนจะยิ่งเร่งสปีดการเติบโต นายซูซินสกี้ระบุ
เขายังเพิ่มเติมอีกว่า ตอนนี้มีบริษัทอินเดียมากกว่า 1,700 บริษัทตั้งกิจการในฮ่องกง ซึ่งตอนนี้พวกเขาสามารถเปิดบัญชีเงินหยวนจากที่ฮ่องกงได้
นอกจากนั้นธนาคารเอชเอสบีซี (ประเทศจีน) ก็ได้มีการนำเสนอบริการเงินหยวนให้กับบริษัทอินเดียเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาที่นครมุมไบด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการใช้เงินหยวนในธุรกรรมการค้าระหว่างกันของจีนและอินเดียที่มูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์
ด้านมอนโกเมอรรี่ย์ โห กรรมการผู้จัดการของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของเอชเอสบีซี (ประเทศจีน) กล่าวว่า การใช้เงินหยวนชำระค่าสินค้าจะช่วยลดต้นทุนธุรกรรมและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และผู้ที่ถือเงินหยวนในมือสามารถมีกำไรจากการแข็งค่าขึ้นของเงินหยวนด้วย
นายโหกล่าวว่า ตอนนี้ฮ่องกงมีกระแสของเงินหยวนหมุนเวียนในระบบมากในฐานะที่เป็นศูนย์กลางเงินหยวนนอกประเทศจีนหรือเป็น Offshore Center และเครื่องมือทางการเงินสามารถพัฒนาได้ในอนาคตเมื่อมีกระแสเงินหยวนหมุนเวียนในตลาดมากพอ
ตอนนี้ธนาคารเอชเอสบีซีของอังกฤษให้บริการชำระค่าสินค้าผ่านแดนในรูปของเงินหยวนมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก
ในช่วงต้นปี 2010 ที่ผ่านมา นายอาทิตยา ปูริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเอชดีเอฟซีของอินเดียได้เรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าระหว่างกันของจีนและอินเดียเพื่อลดต้นทุนและเวลาในการทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดน
ธนาคารเอชเอสบีซีถือเป็นหนึ่งในผู้นำที่เป็นหัวหอกในการยกฐานะของเงินหยวนให้เป็นที่แพร่หลายในเวทีโลกด้วยอาศัยเครือข่ายที่มากมายที่มีอยู่ทั่วโลกของธนาคารเอง
ปัจจุบันธนาคารเอชเอสบีซีเป็นธนาคารต่างชาติที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในอินเดียด้วยจำนวนสาขากว่า 46 สาขาใน 25 รัฐ
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday