รูปภาพ : อสังหาริมทรัพย์ในดูไบยังคงวิกฤตอยู่หลังเผชิญวิกฤตการเงินโลกและปัญหาหนี้ของดูไบ ส่งผลให้ราคาร่วงลงหนักกว่า 60% จากจุดสูงสุด
ที่มา : Bloomberg
ศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศแห่งดูไบหรือ DIFC (Dubai International Financial Center) เขตธุรกิจปลอดภาษีเตรียมลดค่าเช่าและต้นทุนการดำเนินงานลงกว่า 50% เพื่อกระตุ้นให้มีการขยายธุรกิจเข้ามาในเขต DIFC เพิ่มขึ้นหลังวิกฤตการเงินที่ผ่านมา
“เราได้ตั้งราคาอิงกับศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศอื่นๆทั่วโลก” นายอับดุลลา โมฮัมเหม็ด อัลอันวาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DIFC เปิดเผยกับผู้สื่อข่าววานนี้ (12 ธันวาคม 2010) “เราต้องการให้สิทธิประโยชน์ด้านราคาที่ถูกลงแก่ลูกค้าของเราใน DIFC เพื่อให้พวกเขาสามารถขยายธุรกิจของเขาได้”
DIFC กล่าวว่า ทางศูนย์ฯจะทำการปรับค่าเช่าสำหรับบริษัทที่ดำเนินงานในศูนย์โดยให้มีผลตั้งแต่มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
รัฐดูไบจัดตั้ัง DIFC ขึ้นในปี 2004 เพื่อดึงดูดธนาคาร บริษัทจัดการสินทรัพย์ และธุรกิจประกันจากทั่วโลกเข้ามาเพื่อกระจายเศรษฐกิจของตัวเอง ธนาคารระดับโลกเช่น โกลด์แมน แซคส์ และ ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานภูมิภาคใน DIFC ได้ขยายธุรกิจในตะวันออกกลางในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากความมั่งคั่งจากน้ำมันที่พุ่งขึ้นได้เพิ่มความต้องการด้านบริการทางการเงิน บาห์เรนและนครโดฮาในกาตาร์ก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์กลางการเงินของตัวเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดธนาคารจากต่างประเทศด้วย
ร่วงหนัก
ราคาและค่าเช่าเชิงพาณิชย์ของอสังหาริมทรัพย์ในดูไบร่วงลงโดยเฉลี่ยกว่า 60% จากจุดสูงสุดเมื่อกลางปี 2008 เนื่องจากบริษัทต่างๆล้มเลิกแผนการขยายธุรกิจและปริมาณของอาคารใหม่ๆทะลักเข้ามาในตลาด
อัตราพื้นที่ว่าง (Vacancy Rate) ที่ระดับกว่า 40% จะพุ่งขึ้นอีกจากการที่พื้นที่ใหม่ๆอย่างน้อย 20 ล้านตารางฟุต (หรือราว 1.85 ล้านตารางเมตร) ซึ่งเทียบเท่ากับ 40% ของปริมาณเนื้อที่สำนักงานในปัจจุบันของดูไบจะถูกใส่เข้ามาในตลาดในอีก 4 ปีข้างหน้า จากการประเมินของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กรุ๊ป เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา
DIFC ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันการเงินหลายแห่งเป็นที่ที่มีค่าเช่าเพื่อการพาณิชย์สูงที่สุดในดูไบ โดยค่าเช่าในบางส่วนเคยพุ่งสูงถึง 200 ดอลลาร์ (734 เดอร์แฮม) ต่อตารางฟุตเลยทีเดียว นายอัลอันวาร์กล่าว
แต่นั่นกำลังจะเปลี่ยนไปเนื่องจากอัตราค่าเช่าที่สูงที่สุดใน DIFC จะอยู่ที่เพียงแค่ 280 เดอร์แฮมต่อตารางฟุตซึ่งอยู่ในอาคารเกต (Gate Building) ซึ่งจะมีพื้นที่ให้เช่ารองรับอยู่ 2,499 ตารางฟุต ขณะที่ค่าเช่าที่ต่ำที่สุดในพื้นที่ขนาดเท่ากันจะถูกเก็บที่เกต วิลเลจ (Gate Village) ที่ระดับ 235 เดิร์แฮมต่อดอลลาร์ จากแถลงการณ์ของ DIFC
“เราต้องการให้ค่าเช่าอยู่ในระดับเดียวกับอัตราตลาดในตอนนี้และให้ความชัดเจนแก่ลูกค้า” นายอัลอันวาร์กล่าว “บางธุรกิจจะได้รับส่วนลดค่าเช่าสูงถึง 50%” เขากล่าวเพิ่มเติม
แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า นักพัฒนาที่ดินคาดว่าจะเสร็จสิ้นการพัฒนาพื้นที่จำนวนกว่า 2 ล้านตารางฟุตในพื้นที่ DIFC ในอีก 18 เดือน ถึง 2 ปีข้างหน้า
นายอัลอันวาร์กล่าวว่า ปัจจุบันอาคารที่สามารถปล่อยเช่าได้ของ DIFC มีอัตราใช้งาน (Occupancy Rate) เต็มพื้นที่ 100% 1 ใน 3 ของอาคารใหม่ที่เป็นเจ้าของโดยผู้พัฒนาที่ดินซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 มีอัตราการใช้พื้นที่ 70% เขากล่าว บรรดาอาคารที่มีนักพัฒนาที่ดินบุคคลที่ 3 เป็นเจ้าของตอนนี้คิดเป็น 35% ของพื้นที่ว่างให้เช่าทั้งหมดใน DIFC
ที่มา Bloomberg
แผลและเรียบเรียงโดยเบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday