นายกฯเล็งเสนอปรับวิธีการเก็บค่าไฟฟ้า ให้คนใช้น้อยไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนใช้ฟรี ขณะที่คนใช้มากต้องจ่ายเพิ่ม พร้อมสั่งเร่งแก้ความไม่เป็นธรรมในโครงสร้างราคาสินค้าอาหาร
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” ว่า ขณะนี้รัฐบาล มีภาระเร่งด่วน เพื่อแก้ไขความเหลื่อมล้ำในสังคม 3 เรื่องคือ เรื่องค่าครองชีพ เศรษฐกิจนอกระบบ และ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมามีการเชิญผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ มาประชุมต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนและจะสรุปแนวทางทั้งหมดในวันที่ 17 ธ.ค. นี้
ทั้งนี้ในเรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ที่มาตรการให้ใช้ไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 90 หน่วยจะหมดลงสิ้นปีนี้ ก็ได้มีการเปรียบเทียบกับต่างประเทศและมีควาเมห็นว่า วิธีการเก็บค่าไฟฟ้าควรจะมีการปรับ โดยในต่างประเทศผู้ใช้ไฟฟ้ามาก ก็จะจ่ายในอัตราที่สูงกว่าคนใช้น้อย
“ขณะนี้ให้ผู้เกี่ยวข้องไปดูรายละเอียด ว่าให้คนใช้ไฟน้อย คือ ไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน ได้ใช้ไฟฟ้าฟรี โดยแทนที่จะนำเงินภาษีมาชดเชยตรงนี้ ก็ไปเพิ่มค่าไฟสำหรับคนที่ใช้ไฟฟ้ามาก ซึ่งสมเหตุสมสมผล เพราะคนที่ใช้ไฟฟ้ามาก ทำให้รัฐต้องลงทุนจัดหาไฟฟ้า”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ขณะที่ในเรื่องสินค้าอาหาร ได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูราคาไข่ไก่ และเนื้อหมู โดยดูแลให้เกิดความธรรม เพราะในโครงสร้างราคาไข่ไก่ และ เนื้อหมู ยังมีความไม่เป็นธรรมในโครงสร้าง โดยผู้ผลิตรายย่อยต้องแบกรับต้นทุนสูงจากราคาอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนไข่ไก่สูง ซึ่งต้องมีมาตรการไปส่งเสริมความเป็นธรรมและสร้างกลไกให้ผู้ผลิตรายย่อยรวมตัวกันได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ไข่ไก่ที่จำหน่ายในตลาดมีหลายขนาด ทำให้มีต้นทุนในการไปคัดแยกขนาด ซึ่งอาจมีข้อเสนอให้ผู้บริโภคซื้อคละเป็นกิโลก็จะลดต้นทุนตรงนี้ได้ 10-20 สต.
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ในส่วนนโยบายพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องก๊าซธรรมชาติ จะต้อง มีการปรับเปลี่ยนเพื่อลดภาระประชาชน สิ่งที่ยุติเรื่องนี้ได้ ต้องสามารถที่แยกตลาดก๊าซหุงต้ม ครัวเรือน ออกจากภาคอุตสาหกรรม การที่ตรึงราคาก๊าซหุงต้มและขนส่ง เราสามารถที่จะทำได้ไม่ต้องเอาเงินกองทุน โดยก๊าซที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมจะต้องจ่ายตามราคาตลาดโลก
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1436 ครั้ง