นายไกรศักดิ์ ชุณหวัณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าคณะกรรมาธิการว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(ซีเอสซีอี) เลื่อนการพิจารณาปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งเชิญพ.ต.ท.ทักษิณเข้าร่วมออกไปประมาณเดือนมกราคมปีหน้า ว่า เรื่องดังกล่าวตนมองได้เป็น 2 ทาง คืองานดังกล่าวไม่มีจริงเป็นเพียงการสร้างข่าวขึ้นมาเท่านั้นและงานดังกล่าวมีจริงแต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถขอวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งการขอวีซ่าเข้าประเทศตนทราบข้อมูลว่า ทางประเทศสหรัฐอเมริกานั้นยากที่จะพิจารณาออกวีซ่าให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากคดีความทิ่ติดตัวอดีตนายกฯ อยู่ อาทิ คดีซุกหุ้น และการละเมิดสิทธิมนุษยน ในโครงการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นคดีอาญา แม้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะถือพาสปอร์ตของประเทศมอนเตเนโกร และใช้ชื่อปลอมก็ตาม แต่ขั้นตอนการออกวีซ่าจำเป็นต้องนำตัวบุคคลที่ต้องการไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่
ส่วนคดียิ่งนักข่าวญี่ปุ่น นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์โดยอ้างว่า ได้ข้อมูลสำนวนการสอบสวนคดีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงการ ชุมนุม ของดีเอสไอว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่นายจตุพรให้สัมภาษณ์นั้น ตนยืนยันว่า รายละเอียดที่นายจตุพรเปิดเผยไม่ตรงกับสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ เพราะขณะนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าใครผิดหรือถูก
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ส อธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นร่วมประชุมกับดีเอสไอ 5-6 ครั้ง ซึ่งดีเอสไอได้ชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนเท่าที่จะให้ข้อมูลได้ เพราะสถานทูตญี่ปุ่นมีสิทธิ์รู้ผลการสอบสวน เนื่องจากพลเมืองญี่ปุ่นเสียชีวิต และสถานทูตญี่ปุ่นพอใจผลการชี้แจงของดีเอสไอ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1192 ครั้ง