ความสำเร็จของ “มิยาบิ” กับหนังสัญชาติอินโดนีเซียเปิดโอกาสให้นักแสดงสาวคนดังจากญี่ปุ่นมีหนังเรื่องที่สองบนแผ่นดินอิเหนา เช่นเดียวกับดาวเอวี และหนังโป๊จากญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ที่ตบเท้ากันเข้ามารับงานในจาการ์ตา เป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่าคือสีสันแห่งวงการภาพยนตร์ ขณะเดียวกันคนอีกจำนวนไม่น้อยก็คิดว่ามันคือความเสื่อมทราม
หลังผลงานเรื่องแรกประสบความสำเร็จด้วยดี โอดี้ มุลยา ผู้กำกับแห่งบริษัทผลิตภาพยนตร์ Maxima Pictures กล่าวว่าในการรับงานหนังเรื่องที่สอง มาเรีย โอซาว่า หรือ มิยาบิ จะเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า ‘พอลลีน’ แทน เพราะหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ จากสิ่งที่ชาวอินโดนีเซียคุ้นเคยเกี่ยวกับตัวเธอในฐานะนักแสดงหนังโป๊ได้
นอกจากนั้นผู้สร้างยังยืนยันว่าบริษัทจะพยายามหลีกเลี่ยงปัญหา และจะดำเนินการทุกอย่างแบบเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาประท้วงระหว่างการถ่ายทำขึ้นมาอีก
สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น/ฝรั่งเศส ผู้เกิดที่ฮอกไกโด มาเรีย โอซาว่า เริ่มต้นงานในวงการเอวีตั้งแต่ปี 2005 จนมีชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่น และต่างประเทศ โดยระยะหลังนักแสดงสาววัย 24 ปี เริ่มหางานนอกวงการเอวีของเธอดูบ้าง อาทิ การรับงานโชว์ตัว และถ่ายมิวสิควิดีโอในเมืองไทย หรือ แสดงหนังสยองขวัญของไต้หวัน ซึ่งการทำงานในประเทศต่าง ๆ อาจได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีปัญหามากมายแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย
หนังที่ไม่ได้มีฉากโป๊เปลือย, ไม่ได้มีความวาบหวิวผิดเกินปกติจากหนังฮอลลีวูด แต่มีนักแสดงโป๊จากต่างประเทศมารับบทนำ กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมอินโดนีเซีย เป็นความขัดแย้งระหว่าง กฏหมาย, ศีลธรรม, การค้า, ศิลปะ และค่านิยมของประเทศมุสลิมแห่งนี้
ดาราเอวีบุกอินโดนีเซีย
ไม่ใช่เพียง มิยาบิ เท่านั้น แต่ดาราเอวีหลายคนได้รับงานในอินโดนีเซีย เพราะความโด่งดัง และเรื่องอื้อฉาว กลายการประชาสัมพันธ์หนังไปในทางอ้อม ทำให้มีดาราจากทั้งญี่ปุ่น และอเมริกาที่เคยผ่านงานแนววาบหวามมาแล้ว ต่างตบเท้าเข้าไปทำงานในอินโดนีเซีย
หนังสือพิมพ์รายวัน The Republika นำเสนอสกู๊ปข่าวหน้าแรกเกี่ยวกับ โอซาว่า และนักแสดงแนววาบหวิวคนอื่น ๆ ที่ผู้สร้างหนังชาวอินโดนีเซียติดต่อให้มาแสดงในภาพยนตร์แนวปกติ ไม่ว่าจะเป็น ลีอาห์ ยาซึกิ หรือ ริน ซากูรางิ กับหนังเรื่อง Suster Keramas แม้ข่าวคราวของพวกเธอ จะไม่สามารถเทียบได้กับข่าวของ มิยาบิ คนเดียวเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็กลายเป็นข่าว และเป็นที่วิจารณ์ในหนังสือพิมพ์รายวันของอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง
เทอร่า แพททริค สาวลูกครึ่ง ไทย, อังกฤษ และฮอลแลนด์ ผู้เริ่มต้นงานในวงการนางแบบ ต่อมาได้ถ่าย Playboy และ Penthouse จนก้าวเข้าสู่แวดวงหนังสำหรับผู้ใหญ่เป็นอีกคนที่ได้รับการติดต่อให้แสดงภาพยนตร์ในอินโดนีเซีย
สาววัย 34 ปี รับบทนำในหนังสยองขวัญ Rintihan Kuntilanak Perawan (Moan Virgin Women Ghost) ซึ่งผู้สร้างก็ยอมรับว่าหนังอาจสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอินโดนีเซียบางส่วน ที่เตรียมการประท้วงขึ้นอีกครั้ง “การมี เทอร่า แพททริค มาแสดงนำในหนังถือเป็นเรื่องเสี่ยงเหมือนกันครับ เราต้องถ่ายทำกันแบบลับ ๆ บริเวณนอกเขตจาการ์ตา มีบอร์ดี้การ์ด 20 คน คอยดูแลความปลอดภัย และคุ้มครองเธอตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน” ผู้กำกับหนังเรื่องดังกล่าวให้สัมภาษณ์
ตัวของนักแสดงสาวชาวสหรัฐฯ เองก็วิตกกังวลกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ผู้สร้างจึงต้องใช้เวลาถึงกว่า 16 เดือนในการเจรจากว่าจะได้เธอมารับบทนำ … “ครั้งแรกที่ได้ยินข้อเสนอจากอินโดนีเซีย เธอกลัวมาก และเคยปฏิเสธหนังไปถึง 4 หรือ 5 เรื่องแล้ว ก่อนจะตอบตกลงกับเราในที่สุด”
ไม่ผิดกฏหมาย แต่ไม่เหมาะสม?
“ดาราหนังโป๊กำลังทำให้สถานการณ์ที่ไม่สงบกับสังคม“ หนังสือพิมพ์ The Republika พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในวันจันทร์ที่แล้ว ขณะที่วันต่อมามีการไล่เรียงรายชื่อนักแสดงแนววาบหวามจากต่างประเทศ ที่เข้ามารับงานในอินโดนีเซียพร้อมกับข้อความว่า “การล่มสลายของภาพยนตร์ในชาติ” และในวันพุธข่าวหน้า 1 ก็เล่นเรื่องนี้ต่อเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยการเรียกร้องรัฐบาลให้ปฏิเสธใบอนุญาตทำงานของนักแสดงหญิงเหล่านี้
อย่างไรก็ตามยังมีความเห็นต่าง ๆ กันในหมู่ชาวอินโดนีเซีย มูฟตูห์ บาสยูนี รัฐมนตรีกระทรวงการศาสนาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “ตราบใดที่เธอไม่ได้มาแสดงหนังโป๊ในประเทศ มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สิ่งสำคัญที่สุดคือมันต้องไม่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย“ รัฐมนตรียังกล่าวว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ควรถูกขัดขวางด้วยความอ่อนไหวของสังคม”
อย่างไรก็ตามในมุมมองขององค์กรมุสลิมใหญ่สุดของอินโดนีเซีย อย่าง MUI (Indonesian Council of Ulamas) กลับมองงานที่แม้เนื้อหาจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่นำแสดงโดยนักแสดงหนังวาบหวาม จากต่างชาติว่า จะก่อให้เกิดกระแสความสนใจในหมู่วัยรุ่น ที่จะทำให้พวกเขาตามหาหนังผิดกฎหมายของนักแสดงเหล่านี้มาดูต่อไป “ถ้าเราอนุญาตหนังพวกนี้ เด็กวัยรุ่นก็จะได้ดูมัน พวกเขาจะยกย่องบูชาพวกเธอ เรากังวลว่าสุดท้ายแล้วเขาจะพยายามควานหาหนังโป๊ของพวกเธอมาดูในที่สุด”
ซึ่งนอกจากจะมีการเรียกร้องให้แบนหนังที่ มิยาบิ แสดงนำแล้ว MUI ยังเคยเรียกร้องให้มีการแบนการเข้ามาทำงานในจาการ์ตาของดาราเอวีคนอื่น ๆ อย่าง ริน ซากูรางิ ด้วย
โดยมีข้อมูลว่า แผ่นดีวีดีผิดกฎหมายที่นำแสดงโดย มิยาบิ ในกรุงจาการ์ตาตามตลาดนัดทั่วมุมเมือง มียอดขายพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่หนังของเธอเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะจากผู้เริ่มรู้จักเธอกับข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์
อย่างไรก็ตามในหมู่วัยรุ่นกลับชี้ว่าความเห็นของผู้ใหญ่ และกลุ่มศาสนาบางกลุ่มเข้าข่ายเป็นการดัดจริต เพราะตามปกติหนังประเภทนี้ก็สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดายในกรุงจาการ์ตาอยู่แล้ว แม้จะเป็นสินค้าผิดกฎหมายแต่ก็มีการปล่อยให้วางขายกันแบบกว้างขวาง นักศึกษาคนหนึ่งให้ความเห็นว่า การต่อต้านต่างหาก ที่กลายเป็นการสร้างข่าว และเป็นการช่วยเหลือประชาสัมพันธ์ให้กับหนังในทางอ้อม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 4396 ครั้ง