ที่ประชุมครม.มีมติยกเลิก พรก.ฉุกเฉินฯพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีผลพรุ่งนี้ พร้อมให้ปล่อยตัวเสื้อแดง 104 คนที่ถูกขังในเรือนจำ
ภายหลังจากเลิกการประชุมครม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยืนยันว่า ที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกพรก.ฉุกเฉินฯในทุกจังหวัด โดยมีผลพรุ่งนี้ (22ธันวาคม) พร้อมกับยุบ ศอฉ. และให้ใช้กฎหมายปกติในการดูแลสถานการณ์แทน
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (21ธ.ค.) มีมติยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ที่เหลืออยู่ทั้งกทม.และปริมณฑล โดยให้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 ธ.ค.) เป็นต้นไป และให้นำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาบังคับใช้แทน
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้ปล่อยตัวผู้ร่วมชุมนุมเหตุการณ์เดือนเม.ย.ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจำนวน 104คน และรับทราบผลสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ของคณะกรรมการที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหลังประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วว่า จะใช้กฎหมายปกติที่มีอยู่แล้วเป็นเครื่องมือดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการอยู่แล้ว รองลงไปในจังหวัดต่างๆจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เป็นเป็นสิ่งที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเคยหารือกันไว้แล้ว ตั้งไว้รองรับหากมีสถานการณ์วุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
การใช้กฎหมายปกติคือการใช้กฎหมายอาญา ไม่ได้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงมีอยู่แล้ว ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนอย่างที่เคยกล่าวไว้ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตยังไม่เกิดขึ้น อยากให้ช่วยกันมองโลกในแง่ดีช่วงนี้ก็ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว อยากให้ประชาชนได้เบาใจ คลายกังวล มีความสุขในช่วงปีใหม่ คิดว่าวันนี้ผู้ที่มีส่วนร่วมทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายก็เข้าใจแล้วว่า การใช้วิธีอย่างนี้ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ตนเองประสงค์ได้ ในระบอบประชาธิปไตยมีวิธีต่อสู้ มีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ หันมาต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยดีกว่า ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้ประกาศแนวทางไว้ชัดเจนแล้วว่าในปี 2554 จะเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ทุกคนจึงน่าจะเตรียมตัวเดินไปสู่แนวทางการต่อสู้ตรงนั้นดีกว่า หากทุกคนทำตามแนวทางนี้บ้านเมืองก็น่าจะสงบเรียบร้อยขึ้น คงไม่จำเป็นต้องกลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก
นายสุเทพกล่าวอีกว่า ศตส.ไม่ใช่เรื่องของการใช้อำนาจ แต่เป็นเรื่องการติดตามข้อมูลข่าวสาร ประเมินสถานการณ์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของฝ่ายต่างๆ ไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดอยู่ที่ตำรวจ ทหาร หรือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้เป็นการหวงอำนาจ และไม่ได้เปลี่ยนสภาพจาก ศอฉ. เป็น ศตส. เป็นการเลิกแบบไม่มีร่องรอยและเลิกโดยเด็ดขาด
นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกรัฐบาล กล่าวถึงการประกันตัวผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่ถูกจับกุมระหว่างเหตุรุนแรง ซึ่งวันนี้ ครม.มีมติให้ช่วยเหลือผู้ที่กระทำผิดไม่ร้ายแรง 104 คน ว่า ครม.ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเรื่องการประกันตัว แต่หน้าที่หลักเป็นของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหลักการต้องช่วยทุกคนโดยไม่แบ่งแยก และมีกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพดูแลควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้เป็นเพียงการอนุมติหลักการ ยังไม่ลงลึกถึงตัวเลข เนื่องจากแต่ละคดีแตกต่างกันไป
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1169 ครั้ง