รูปภาพ : สำนักงานใหญ่ของธนาคารประชาชนจีนหรือ The People’s Bank of China (PBOC) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศจีน
ที่มา : Bloomberg
รัฐบาลจีนอาจเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล นายทามาส เฟลเลกี้ (Tamas Fellgi) รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาของฮังการีระบุ เนื่องจากประเทศฮังการีต้องการเลี่ยงการขอเงินกู้เฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟ
จีนได้ยื่นข้อเสนอที่จะซื้อพันธบัตรฮังการีเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศพบกันเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2010 นายเฟลเลกี้กล่าวกับเว็บข่าวอินเด็กซ์ในระัหว่างการสัมภาษณ์ซึ่งตีพิมพ์ลงเว็บเมื่อพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2010 ที่ผ่านมา การให้การสนับสนุนทางการเงินของจีนต่อฮังการีนี้จะมีตั้งแต่การให้ธนาคารกลางของจีันเข้าประมูลซื้อพันธบัตรรัฐบาลฮังการีบางส่วนไปจนถึงการให้รัฐวิสาหกิจจีนปล่อยกู้โครงการลงทุนบางอย่างเป็นการเฉพาะเช่น การพัฒนาทางรถไฟ อินเด็กซ์ระบุ
อินเด็กซ์ยังอ้างอิงคำพุดของนายเฟลเลกี้อีกว่า “นายกรัฐมนตรีฮังการีตอบรับข้อเสนอนี้” และตัวแทนจากทั้ง 2 ประเทศจะหารือในเรื่องนี้อีกทีในเดือนมกราคมนี้ในฮังการี
ด้านนางเมลินด้า คามาส (Melinda Kamasz) โฆษกระทรวงการพัฒนาฮังการีไม่มีความเห็นเพิ่มเติมกับการรายงานข่าวของอินเด็ซ์ในเรื่องนี้
ฮังการีประเทศยุโรปตะวันออกที่มีภาระหนี้สินมากที่สุดตัดสินใจไม่ขอเงินกู้ก้อนใหม่จากไอเอ็มเอฟหลังจากวงเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟมูลค่า 20,000 ล้านยูโรหมดอายุลงเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ฮังการีมีความประสงค์ที่จะพึ่งพาตลาดสำหรับการกู้เงิน นายลาสโล อันดราส บอร์เบลีย์ (Laszlo Andras Borbely) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประเทศฮังการีกล่าวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2010 ที่ผ่านมา
มูลค่าการขายพันธบัตรเบื้องต้น (Gross Debt Sales) ของฮังการีจะอยู่ที่ 4.76 ล้านล้านโฟรินต์ (Forint) หรือราว 22,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 นี้ เทียบกับ 4.25 ล้านล้านโฟรินต์ในปี 2010 ที่ผ่านมา จากการระบุของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
การซื้อพันธบัตรของทางการจีนไม่น่าจะช่วยลดต้นทุนการกู้เงินของฮังการีเนื่องจากเงื่อนไขการตกลงกู้เงินจากจีนจะไม่โปร่งใสเท่ากรณีที่กู้จากไอเอ็มเอฟ นายดาเนียล เบเบซี่ (Daniel Bebesy) ซึ่งบริหารเงินลงทุนมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ที่ Budapest Investment Management ให้ความเห็น
ล่าสุดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์มาอยู่ที่ 2.65 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2010 ที่ผ่านมา
ที่มา China Daily
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday