เสื้อแดงสลายตัวแล้ว หลังชุมนุมราบรื่น ไร้ป่วน นัดรวมพลอีกครัง23ม.ค.ด้านทักษิณ โฟนอินจากเครื่องบิน ขอพรปีใหม่ฟื้นยุติธรรมให้ประเทศ ยันสุขภาพแข็งแรง
วันที่ 9 ม.ค. การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์ ล่าสุด มีผู้ชุมนุมรวมตัวกันหนาแน่น โดยมีแกนนำ อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช.นายจตุพร พรหมพันธุ์ นางศิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยานายณัฐวุุฒิ ใสยเกื้อ ได้กล่าวปราศรัยบนรถกระบะติดเครื่องกระจายเสียง
จนประมาณ 20.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินเข้ามาปราศรัยกับผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ โดยอดีตนายกฯ กล่าวว่า ปีใหม่ปีนีเริ่มต้นไม่คอยดี จะเชื่อว่าจะเป็นปีของพี่น้องคนไทยทุกคน สำหรับการปรองดองในความหมายของรัฐบาลนี้หมายความว่าจะต้องไล่ล่าตนและจับตัวแกนนำ เขามีแผนว่าจะต้องจัดการไล่ล่าตนเอง
“ปีใหม่นี้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลให้ผู้ที่เอาประชาธิปไตยออกจากประชาชนไปเปลี่ยนใจคืนประชาธิปไตยและคืนความยุติธรรมให้ประชาชนบ้านเมืองจะได้สงบเสียที ขอให้พี่น้องทุกคนมีกำลังใจ และอดทนรักประชาธิปไตยและความยุติธรรมต่อไป และกลับคืนมาแล้ว ปี 54เราจะตามหาประชาธิปไตยและความยุติธรรมจนเจอให้ได้ความยุติธรรมและความเป็นธรรมจะต้องกลับคืนสู่สังคมไทยและความมั่งคั่งจะต้องกลับคืนสู่พี่น้อง”
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้มีข่าวลือสารพัด ตนเองอยากบอกกับพี่น้องว่า ตนแข็งแรงดี และกำลังบินจากยุโรป อยู่บนเครื่องบิน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายปกป้องให้พี่น้องพ้นเงื้อมมือเผด็จการทั้งหลาย
จากนั้น ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเสร็จ นายจตุพร ได้ขึ้นปราศรัยครั้งที่ 2 โดยอธิบายต่อมวลชน ว่าฝ่ายกฎหมายของ นปช.ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังศาลอาญา กรณีคำสั่งของศาลห้ามเข้าร่วมการชุมนุมโดยได้คำตอบว่า ห้ามเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อพูดในเรื่องคดีก่อการร้ายเท่านั้น ฉะนั้นในวันนี้ ในเรื่องของคดีการก่อการร้ายและการสั่งฆ่าประชาชนของรัฐบาลตนจะเก็บไว้ไปพูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
อีกทั้ง นายจตุพร ได้กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลหลายเรื่อง อาทิ จากการตัดสินสคดียุบพรรคที่เป็น 2 มาตรฐานการกู้เงินจำนวนมากเพื่อมาบริหารประเทศและขึ้นเงินเดือนให้กับ ส.ส. รวมไปถึงโจมตีบทบาทของกลุ่มพันธมิตรฯและเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้
จากนั้น เวลา 20.30 น.นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช.ภรรยานพ.เหวง โตจิราการ อดีตประธานนปช.นำคนเสื้อแดง จุดเทียนแดงเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์การสลายการชุมนุม พร้อมทั้งร้องเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ร่วมกันก่อนประกาศยิติยุการชุมนุม โดยนัดหมายวันที่ 23 ม.ค.ที่ราชประสงค์ จากนั้นคนเสื้อแดงทยอยเดินทางกลับ
แดงพรึบราชประสงค์
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้การชุมนุมของคนเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์ เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมชุมนุม ขณะที่บริเวณทางเดินเข้าออกรอบนอก มีพ่อค้าแม่ค้าขายของกินเป็นจำนวนมาก
โดยกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินทางถึงแยกราชประสงค์แล้วเมื่อเวลา 16.18น.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อช่วงเม.ย.2553
ที่ถนนเพลินจิต และถนนราชดำริมุ่งหน้าประตูน้ำผ่านหน้าหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ตำรวจได้ปิดการจรจาลงแล้วหลังเกิดสภาพติดขัดและเป็นอัมพาต ส่วนศูนย์การค้า และโรงแรม ตั้งแต่หน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และห้างเกสรพลาซ่า เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้พื้นที่อาคาร
เช่นเดียวกันกับหน้าโรงแรมเอราวัณตำรวจนำแผงเหล็กมากั้น อยู่ตรงถนนทางเข้า เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมล้นเข้าไปในพื้นผิวจราจรแยกราชราชประสงค์ โดยมีตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชนควบคุมสถานการณ์
ก่อนหน้านี้ ขบวนรถจักรยานยนต์กลุ่มคนเสื้อแดง เคลื่อนขบวนเดินทางออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงสี่แยกราชประสงค์ มีคนเสื้อแดงปักหลักอยู่บริเวณถนนราชดำริฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์ ตำรวจได้นำรั้วแผงเหล็กสีเหลืองมากั้นที่หน้าเกสรพลาซ่า ทำให้ผู้ชุมนุมมีท่าทีไม่พอใจ ต่างโห่ร้องพยายามจะนำแผงหลักออกจากพื้นที่แล้วฝ่าไปได้โดยสำเร็จ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยืนยันจะเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงในช่วงเย็นวันนี้ ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้มีการหารือกันในเบื้องต้น ว่าจะคอยติดตามดูพฤติกรรมของนายจตุพร ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดสัญญาประกันหรือไม่ หากพบว่านายจตุพรกระทำความผิด ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเพิกถอนการประกันตัวนายจตุพร ต่อไป ทั้งนี้ คงต้องรอดูในวันนี้ก่อนว่านายจตุพร จะกระทำการละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ แต่ขณะนี้คงจะยังไม่สามารถสรุปได้ว่านายจตุพรกระทำความผิดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่นายจตุพรตีความคำสั่งของศาล ที่ห้ามร่วมชุมนุมเกิน 5 คน และห้ามให้ข่าวต่อสาธารณชน เป็นการสั่งห้ามเฉพาะเรื่องเกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้ายนั้น ตนไม่ขอให้ความเห็น เพราะเป็นดุลพินิจของศาลซึ่งตนไม่อยากเข้าไปก้าวล่วง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1179 ครั้ง