มาตุภูมิ เลือกพล.อ.สนธิ หัวหน้าพรรค-มั่น เลขาฯ

มาตุภูมิเลือก “พล.อ.สนธิ” ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ประกาศพร้อมสู้สึกเลือกตั้ง แต่ไม่คาดหวังจำนวน ส.ส. ไม่หวั่นคนติดภาพผู้นำรัฐประหาร ยินดีจับขั้วการเมืองกับทุกพรรคตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง 
       
วันที่ 10 ม.ค.พรรคมาตุภูมิได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 โดยมีวาระเลือกกรรมการบริหารพรรค จำนวน 16 คน โดยตำแหน่งสำคัญที่สมาชิกพรรคมีมติเลือก เช่น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าพรรค พล.อ.ภิญโญ แก้วปลั่ง นายภูวเดช อินทวงศ์ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ และร.ต.วัฒนา แก้วศิริ เป็นรองหัวหน้าพรรค นายมั่น พัธโนทัย เป็นเลขาธิการพรรค และนายวิริยะ ลิขิตวงศ์ เป็นโฆษกพรรค
       
พล.อ.สนธิกล่าวขอบคุณที่สมาชิกเลือกให้มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แม้เป็นพรรคเล็กแต่จะทำให้พรรคมีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ โดยจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเป็นที่พึ่ง โดยมีอุดมการณ์และตั้งใจจริง ซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ขณะเดียวกัน สถานการณ์ของประเทศมีปัญหาทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม พรรคจึงอยากมีส่วนร่วมแก้ปัญหาเหล่านี้ และจะเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ มีความคิดใหม่ๆ ที่ทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยแบบไทยๆ และจะนำพาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมือง เข้มแข็งในระยะยาว ไม่ใช่พรรคของใครคนใดคนหนึ่ง
       
พล.อ.สนธิกล่าวว่า พรรคมาตุภูมิพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้ง หากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา แต่ไม่คาดหวังจำนวน ส.ส.ที่พรรคจะได้รับ ซึ่งฐานเสียงของพรรคมีอยู่ทั่วประเทศ เน้นในพื้นที่ภาคใต้ และไม่กังวลเรื่องฐานเสียงทับซ้อนกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน แต่ยอมรับว่ามีโอกาสยากที่จะชนะทั้งหมดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จะพยายามทำให้ได้มากที่สุด
       
ทั้งนี้ พรรคจะชูนโยบายในเรื่องอุดมการณ์ของพรรค สร้างสังคมให้มีความรักความผูกพัน สำหรับเรื่องสัดส่วน ส.ส. พรรคไม่ขัดข้อง ทั้งจำนวน ส.ส.เขต 400 คนต่อ ส.ส.สัดส่วน 100 คนหรือ 375 คน ต่อ 125 คน ส่วนการจับขั้วการเมือง พรรคเป็นเพื่อนกับทุกพรรค รักทุกคน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย
       
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้มาเป็นนักการเมืองเต็มตัว แล้วภาพผู้นำรัฐประหารที่อาจติดตัวและเป็นอุปสรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่นั้น พล.อ.สนธิกล่าวว่า แล้วแต่แต่ละคนจะมองว่า ตนเป็นนักการเมืองเต็มตัวหรือไม่ และคงไม่มีใครรัก 100 เปอร์เซ็นต์ ตามสุภาษิต “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ” แต่ย้ำว่าตนมีเจตนาดีต่อประเทศ