นายกรัฐมนตรี ยืนยัน เร่งช่วย 5 คนไทยได้ประกันตัว ปัดแลกเปลี่ยนตัวผู้ต้องหากับทางกัมพูชา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทราบถึงความห่วงใยของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีต่อ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ที่ขณะนี้ได้รับการประกันตัว และพักในสถานทูตไทยในกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้ระงับการเดินทางไปเยี่ยม เนื่องจากเกรงจะกระทบการให้ความช่วยเหลือ 5 คนไทยที่เหลือ ทั้งนี้มั่นใจว่า ทั้งหมดจะได้รับการประกันตัวในเร็วๆ นี้ และปัญหาทุกอย่างจะได้ข้อยุติ
พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวการแลกเปลี่ยนนักโทษกัมพูชา ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ไม่เป็นความจริง และไม่เคยได้ยิน หรือมีเรื่องเช่นนี้มาก่อน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง 5 คนไทย ที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวว่า การดำเนินการคงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของข้อกฎหมาย และตนเองยังไม่ได้คุยกับ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ แต่อย่างใด
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คน รวมทั้งมีกระแสข่าวว่า มีนายทหารระดับสูงได้รับผลประโยชน์ตามแนวชายแดนนั้น คิดว่าเป็นความไม่ยุติธรรมสำหรับ พล.อ.ประวิตร โดยตั้งแต่เกิดเหตุ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นกำลังสำคัญในการประสานงานกับผู้นำกัมพูชามาโดยตลอด และขอยืนยันว่า ไม่มีนายทหารระดับสูงประจำตามแนวชายแดน มีส่วนร่วมกับผลประโยชน์ตามกระแสข่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาตินั้น เชื่อว่าคงไม่ลุกลามไปสู่ความรุนแรง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ต้องการเห็นการกระทำที่รุนแรง ที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย และคิดว่าจะยังสามารถควบคุมให้อยู่ภายในกรอบกฎหมายได้
ส่วนทีมีข่าวว่า กัมพูชาส่งทหารหน่วยรบพิเศษ 200 นายนั้น กองทัพยังไม่เพิ่มกำลังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนตัวไม่อยากให้วิตกกังวลใจกับเรื่องนี้ เพราะกองทัพมีศักยภาพ มีความพร้อมปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ
ส่วนกรณีชาวไทย 5 คน ซึ่งทางการกัมพูชายังคงไม่ให้ประกันตัว จากกรณีรุกล้ำดินแดนนั้น กระทรวงการต่างประเทศต้องดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน และค่อยๆ แก้ไขปัญหา ส่วนตัวไม่อยากให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปเยี่ยม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกจับกุมตัวที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากเกรงว่าอาจเป็นการกดดันทางการกัมพูชา
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยข่มขู่ด้วยการยุบสภา แต่สิ่งที่สมาชิกพรรคบางคนแสดงความเห็นไป เกิดจากความไม่ตั้งใจ พร้อมยืนยัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ได้มีการแบ่งหรือเรียกรับงบประมาณ ตามที่มีการตั้งข้อสังเกต
สวนกรณีที่การอุทธรณ์คำร้องขอประกันตัวชั่วคราวคนไทย 5 คน เป็นครั้งที่ 2 โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ทนายความกัมพูชาดำเนินการทันที หลังคำร้องที่ยื่นต่อศาลกรุงพนมเปญครั้งแรกไม่ได้รับอนุญาตนั้น นายพนัส ทัศนียานนท์ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ ประเมินจากท่าทีและข้อเท็จจริง ที่ติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอดแล้วเชื่อว่า อาจเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จได้ พร้อมกับวิเคราะห์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปัญหาพื้นที่พิพาทโดยรอบปราสาทพระวิหาร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1002 ครั้ง