S&P ปรับเพิ่มเรตติ้งอินโดนีเซีย

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อ Standard and Poor’s หรือ S&P
ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรตติ้งให้กับประเทศ
อินโดนีเซียเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2010
ที่ผ่านมาท่ามกลางสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยักษ์
ใหญ่แห่งเอเชียอาคเนย์แม้จะัเผชิญอุปสรรคทางการเมืองก็ตาม

ปี 2009 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจอินโดนีเซียแสดงการเติบโตที่ดีและแข็งแก
ร่งที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเช่นเดียวกับค่าเงินรูเปียะห์ที่ทำสถิติ
แข็งค่ามากที่สุดสกุลหนึ่งในปี 2009 เช่นกัน
โดยดัชนีตลาดหุ้นจาการ์ตาพุ่งขึ้นกว่า 87%
ขณะที่ค่าเงินรูเปียะห์แข็งค่ากว่า 15%
เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียพุ่งทะลุ 4% ในปี 2009
ขณะเดียวกันธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์ทาง
เศรษฐกิจในปี 2010 เป็น 6-6.5% ในพฤหัสฯที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
ซึ่งถือเป็นการปรับประมาณการณ์เพิ่มเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์

S&P ปรับเพิ่มเรตติ้งระยะยาวสำหรับการกู้ยืมในรูปสกุลเงินต่างประเทศ
ของรัฐบาลอินโดนีเซียจาก BB- เป็น BB ทำให้เรตติ้่งในการกู้เงินระยะ
ยาวในสกุลต่างประเทศของอินโดนีเซียสูงกว่าฟิลิปปินส์ 1
ขั้นและขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับประเทศตุรกี
การปรับเพิ่มเรตติ้งในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4
ปีสำหรับอินโดนีเซียและนับว่าเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดตั้งแต่
วิกฤตการเงินในปี 1998 ขณะเดียวกันบริษัทเรตติ้งอีก 2 แห่งคือ Fitch และ
Moody’s ก็ได้เพิ่มเรตติ้งให้อินโดนีเซียไปแล้วในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

นางศรี มุลยานี อินทราวาตี รมว.คลังของอินโดนีเซียและหัวเรือใหญ่
ผู้ผลักดันการปฏิรูปให้กับระบบการเงินของประเทศในช่วงที่ผ่านมา
ได้กล่าวว่า เธอหวังว่าประเทศอินโดนีเซียจะได้รับเรตติ้งในระดับ
น่าลงทุนหรือ Investment Grade จาก Moody’s ภายในปีนี้
ซึ่งต้องมีการปรับเรตติ้งเพิ่มขึ้นอีก 1 ขั้นถึงจะไปถึงระดับน่าลงทุน

การปรับเรตติ้งของ S&P ถือเป็นสัญญาณของความเชื่อมั่นเนื่อง
จากบรรดานักการเมืองหัวปฏิรูปกำลังเผชิญการโจมตีทางการเมืองอย่างหนักจาก
พรรคฝ่ายค้านกรณีที่มีการอุ้มธนาคารระหว่างวิกฤตการเงินในปี 2008
ซึ่งต้องใช้เงิน 715 ล้านดอลลาร์

นางศรี มุลยานีและนางโบเอดีโอนโน
อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียในปีที่แล้วและปัจจุบันดำรงตำแหน่งรอง
ประธานาธิบดีเสี่ยงต่อการยื่นถอดถอนจากกรณีดังกล่าวแต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า
สุดท้ายแล้วทั้ง 2 จะไม่ถูกถอดถอน

S&P
ให้ความเห็นต่อกรณีนี้ว่าแรงกดดันทางการเมืองในตอนนี้เป็นเพียงอุปสรรคชั่ว
คร่าวซึ่งไม่สามารถขัดขวางวาระสำคัญในการปฏิรูปในด้านงบประมาณ
ระบบบริหารและโครงสร้างโดยรวมของประเทศได้

ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของประเทศจะทำให้สามารถดึงดูดนักลง
ทุนต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติมเนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมออกพันธบัตร
มูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ในรูปของซามูไรบอนด์
ซึ่งจะขายเป็นเงินเยนและระดมทุนในตลาดโตเกียวในช่วงเมษายนหรือพฤษภาคมที่จะ
ถึงนี้

ธนาคารกลางอินโดนีเซียประสบความสำเร็จในการปกป้องค่าเงินรูเปียะห์ในช่วง
วิกฤตการเงินที่ผ่านมา โดยล่าสุดธนาคารกลางอินโดนีเซียมีทุนสำรองทั้งสิ้น
69,7000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นอกจากนั้น S&P
ยังได้คงเรตติ้งสำหรับการกู้เงินระยะยาวในรูปของสกุลเงินท้องถิ่นไว้ที่ BB+
และเรตติ้งสำหรับการกู้เงินระยะสั้นในรูปเงินตราต่างประเทศไว้ที่ B

ปัญหาการคอรัปชั่น โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ มูลค่า GDP
ต่อหัวที่ต่ำเพียง 2,300
ดอลลาร์สหรัฐฯและหนี้ต่างประเทศที่สูงเป็นปัจจัยสำคัญที่เหนี่ยวรั้งการเติบ
โตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย

ที่มา Financial Times
http://www.ft.com/cms/s/0/4f174b9a-2dc8-11df-a971-00144feabdc0.html