นปช.ชุมนุมวันแรก ยังไม่ถึงแสนคน คาดวันที่ 14 ยอดทะลุแสน ขณะที่ ตู่ โว 200,000 คน ด้านกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียม ประกาศท่าทีเที่ยงคืน เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ขู่ปิดถนนทั่วกทม.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า พรุ่งนี้ (14มี.ค.) ในช่วงบ่าย นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่ม นปช. จะแถลงข้อเรียกร้องกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ยุบสภา คืนอำนาจแก่ประชาชน และต้องการคำตอบทันที หากไม่ได้รับคำตอบภายในเวลา 12.00 น.ของวันจันทร์ที่ 15 มี.ค. คนเสื้อแดงจะเดินชุมนุมทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเป็นการเคลื่อนขบวนใหญ่ ไม่ใช่เป็นการดาวกระจายกลุ่มย่อย
อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า จะไม่ไปชุมนุม รพ.ศิริราช และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างแน่นอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงออกมากล่าวถ้านายกฯไม่ตัดสินใจยุบสภาฯ ระหว่างวันที่ 14-15 มีนาคม จะนำพลคนนับล้านมาปิด กทม.ว่า รัฐบาลคงไม่อยู่ภายใต้ภาวะที่จะให้ใครมาข่มขู่ การเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญคือการมาชุมนุมแสดงออกเพื่อให้ความคิดเห็นในทางการเมือง จะสะท้อนข้อเรียกร้องอะไร ก็สามารถทำได้รัฐบาลพร้อมรับฟังและพิจารณา แต่หากจะใช้วิธีข่มขู่คงไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามความหมายของการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า คำขู่ของนายณัฐวุฒิดูเหมือนเป็นการก้าวข้ามยื่นเงื่อนไขให้รัฐต้องปฏิบัติตาม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การไปฟังนายณัฐวุฒิคนเดียวคงไม่ได้ มีหลายคนต่างคนต่างพูดไปคนละเรื่อง ข้อเสนอที่นายณัฐวุฒิเสนอ ก็ไม่ตรงกับข้อเสนอของแดงสยาม ส่วนเส้นตายที่เขาขีดมานั้นคงไม่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองของตนและตนก็จะดูว่าข้อเสนอเหตุและผลคืออะไร
“การที่จะบอกว่าคนคนหนึ่งพูดว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ ในขณะที่คนกลุ่มเดียวกันเองมาบอกว่าไม่ใช่เป้าหมายมันก็ต้องพิจารณาและการที่เขาออกมาบอกว่ายุบสภาฯ แล้วเหตุการณ์จะสงบ แดงสยามก็ไม่เห็นบอกแบบนี้” นายกฯ กล่าว
ขณะที่คำขู่ของนายณัฐวุฒิ รัฐบาลไม่มองหรือหยิบมาเป็นประเด็นใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยัง เพราะมันไม่ใช่ข้อเสนอเป็นเรื่องที่นายณัฐวุฒิพูด แต่หากมีการชุมนุมแล้วเขาจะส่งเรื่องราวหรือจัดยืนต่างๆ ก็ค่อยนำมาพิจารณากัน แต่เท่าที่ตนฟังมาในช่วงเช้าก็มีคนมาบอกว่ากลุ่มแดงสยามมีความคิดเห็นไปอีกทางหนึ่ง
“โทษนะครับ เมื่อวานคุณณัฐวุฒิก็เป็นคนพูดเองว่ายุบสภาเป็นแค่หลักกิโลแรก ไม่ได้บอกว่าหลักกิโลสุดท้าย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ทาง ศอ.รส.จะติดตามจับตาเป็นพิเศษในทุกด้าน ส่วนด้านการข่าวที่คืนนี้อาจมีการสร้างสถานการณ์หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่รายงานการก่อเหตุ แต่คืนนี้ทาง ศอ.รส.จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้ หน่วยความมั่นคงที่วางกฎต่างๆก็ต้องมีการผ่อนปรนตามสถานการณ์เพื่อความเรียบร้อย โดยขณะนี้การเดินทางของกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆซึ่งยอดคนภายในคืนนี้น่าจะถึง 1 แสนคน
ส่วนการชุมนุมของเสื้อแดง ก่อนเที่งกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ตั้งเวทีปราศรัยบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เดินทางมาจากภาคเหนือและภาคอีสานโดยรถกระบะแบะรถประจำทางที่เหมามา ผ่านด่านตรวจของเจ้าที่บริเวณพยุหะคีรีและวังน้อยจนรถติดขัดยาวนับ 10 กิโลเมตร จนทางเจ้าหน้าที่ต้องปล่อยให้รถผ่าน
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส) แถลงผลการประชุม ศอ.รอ.ว่า ที่ประชุมได้หารือในประเด็นสำคัญคือ แนวทางการจัดระเบียบจราจร เนื่องจากปรากฏว่า การจราจรเป็นไปอย่างคับคั่ง และ ศอ.รส.เกรงว่า จะมีการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนทั่วไปกับกลุ่มผู้ชุมนุม จึงอนุโลมให้นำรถกระบะ รถตู้ และรถ 6 ล้อ เข้ามาในบริเวณพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงได้ เพราะมีสถานที่จอดรถเพียงพอ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง รับผิดชอบดูแลจัดระเบียบการเดินรถเหมือนเช่นที่ทางกรุงเทพฯเคยจัดงานมาหลายครั้ง
สำหรับรถที่เข้ามาจอดต้องทำตามกฎกติกาข้อบังคับมาตรา 18 ที่บังคับว่า เส้นทางไหนสามารถใช้ได้ และเส้นทางไหนใช้ไม่ได้ หากรถที่เข้ามาแล้วทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเอาผิดได้ แต่ขั้นต้นยังพบว่าผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือดี
“ขณะนี้ได้รับแจ้งจากตำรวจภูธร ภาค 1 ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ได้ตรวจค้นบริษัท ฟูจิออโต้ เลขที่ 129/42 หมู่ 3 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบสิ่งประดิษฐ์เทียมอาวุธ เครื่องยิงเอ็ม 79 หรือที่เรียกว่า “อีโบ๊ะ” โดยตำรวจสันติบาลตรวจยึดของกลางได้ 100 ชิ้น และมีข่าวลือว่า ทาง ศอ.รส.ออกกฎระเบียบไม่ให้ผู้ประกอบการนำรถแก๊สและรถน้ำมันเข้ามาเพื่อประกอบธุรกิจได้ ซึ่งยืนยันว่า ทางศอ.รส.ไม่ได้มีคำสั่งนั้น ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข่าวลือ หากประชาชนพบรถแก๊สหรือรถน้ำมันไปจอดในที่ไม่ควรจอด ควรแจ้งมาที่หมายเลขโทรศัพท์ 199 หรือ 02-5139466 ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และมีข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคง พบว่ามีการกว้านซื้อชุดทหารจำนวนมาก ซึ่งเราไม่มั่นใจว่า จะนำชุดเครื่องแบบทหารไปทำอะไร แต่ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกหน่วยในศอ.รส.จะไม่มีการพกพาอาวุธ ทั้งนี้หากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่ส่อไปในทางที่จะรุนแรง หรือพบเจ้าหน้าที่พกอาวุธ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที”
ขณะเดียวกัน ได้พบว่า ได้มีประชาชนจำนวนหนึ่งกว้านซื้อชุดเครื่องแบบทหาร ประกอบด้วย กางเกงลายพราง และเสื้อยืดลายพรางจำนวนมาก บริเวณตลาดโบ๊เบ๊ และร้านค้าเครื่องแบบทหารหลังกระทรวงมหาดไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำมาแต่งเลียนแบบทหาร และเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายในกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง
เวลาคนเสื้อแดง เริ่มเวลา 15.00 น.โดยมีการปราศรัยปลุกระดมให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลตัดสินใจยุบสภา เวลา 17.00 น. ได้มีการร้องเพลงปลุกใจกลุ่มผู้ชุนุม รวมทั้งได้มีการปิดถนนพื้นที่ชุมนุมอีกด้วย ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงได้จัดให้สื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวการชุมนุมลงทะเบียนเพื่อรับผ้าพันคอสีเขียวแสดงตัวว่าเป็นสื่อมวลชน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มนปช. แถลงว่า ในเวลา 24.00 น.วันนี้(13 มี.ค.) คาดว่า จะมีมวลชนจากทุกภาคของประเทศเดินทางมาพร้อมเพรียงที่สะพานผ่านฟ้า และพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น. นปช.จะประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หากรัฐบาลไม่รับเงื่อนไข ก็จะยกระดับการเคลื่อนไหวไปยังสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งจะประกาศในวันพรุ่งนี้ว่าเป็นที่ใด บอกเพียงว่าอยู่ในรัศมีไม่เกิน 20 กิโลเมตรจากสะพานผ่านฟ้า ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถเอาชนะได้ภายใน 4 วัน แต่ถ้ารัฐบาลยังอยู่ก็จะเคลื่อนไหวอย่างหนักให้ยุบสภาสำเร็จไม่เกิน 7 วัน
ทั้งนี้นายจตุพร ยังเรียกร้องให้ พ.ต.อ.เกษมสันต์ หะชะนี รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุบลราชธานี ออกมาแสดงตน เพราะทราบมาว่า มีการสะสมอาวุธเพื่อพยายามสร้างสถานการณ์ ซึ่งพ.ต.อ. เกษมสันต์ มีความสนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ และยังทราบมาว่า มีความพยายามใช้ รร.พูลแมน ซึ่งเป็นของนายวิชัย รักศรีอักษร เป็นที่ซ่องสุมกำลังเตรียมสร้างสถานการณ์ด้วย
เมื่อเวลา 17.20 น. นายถวิล เปลี่ยศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า จำนวนผู้ชุมนุมยังไม่ถึง 1 แสนคน แต่คาดว่า ในวันพรุ่งนี้(14 มี.ค.)จะถึง 1 แสนคน
นายถวิลกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางการยังคงจับตาการก่อเหตุวินาศกรรมเป็นพิเศษทุกคืน และตอนนี้ขอให้รอผลการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เวลา 20.00 น.
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 924 ครั้ง