ทหารไทยชักธงชาติเหนือ “เขาพระวิหาร” ส่งผลตลาดนัดชายแดน “ช่องสะงำ” เงียบเหงาหนัก ชาวเขมรผวาไม่กล้าเข้ามาซื้อสินค้าฝั่งไทย เผย มีรายงานทหารไทยเคลื่อนทัพรถถังหลายสิบคันตรึงกำลังเข้มชายแดนเขาพระวิหาร ด้านนายกฯ เล่นสงครามจิตวิทยา สั่งชักธงไทยขึ้นเสา ตอบโต้ “กัมพูชา” ไม่ยอมปลดธงที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ
วันที่ 1 ก.พ. หลังจากทหารพรานไทยได้ชักธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาที่บริเวณสถูปคู่ บนเขาพระวิหาร ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนใกล้กับชุมชนของชาวกัมพูชา เชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตอบโต้กัมพูชาที่ปักธงชาติกัมพูชาที่บริเวณทางเข้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ปรากฏว่า การตอบโต้กันดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวที่บริเวณจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดให้มีตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณตลาดนัดฝั่งไทย บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทยที่ช่องสะงำแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 31 ม.ค.ฝ่ายทหารไทยได้นำรถถังที่มีประสิทธิภาพสูงของกองทัพไทยจำนวนหลายสิบคัน ขึ้นไปประจำการรอบบริเวณเขาพระวิหารที่อยู่ในเขตแดนไทย และหันปากกระบอกปืนรถถังไปยังเขตประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้อย่างเต็มที่หากกองกำลังกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย
แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติ ไม่มีการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารเกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างตรึงกำลังอยู่ในเขตแดนของตนเองในสภาพเตรียมพร้อมตลอดเวลา
เวลา 13.30 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมครม.ไม่ได้มีการหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รายงานเรื่องบริเวณพระวิหารว่าได้มีการชักธงไทยขึ้นและมีการตรึงกำลังกันอยู่
ทั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการรื้อถอนวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ แต่เป็นการพูดถึงก่อนหน้าที่ที่ทางกัมพูชาชักธงขึ้น ซึ่งเราเห็นว่า ทางกัมพูชาควรจะเอาธงลง โดยระหว่างนี้เราก็เอาธงของเราขึ้นไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายจะต้องยึดกระบวนของเอ็มโอยูเข้ามาแก้ไขปัญหา และได้นัดพบกับนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งกำหนดการยังไม่เปลี่ยนแปลง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1532 ครั้ง