การประชุมสภานิติบัญญัติของพม่าในวันอังคาร เป็นวาระการเสนอรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี หลังจากเมื่อวันจันทร์สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้เปิดประชุมและลงมติเลือกประธานของทั้งสองสภาไปแล้ว โดยปรากฏว่า ตูระ ฉ่วย มาน ผู้บัญชาการอันดับ 3 ของรัฐบาลทหารชุดเก่าที่ทิ้งเครื่องแบบมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) ที่กองทัพหนุนหลัง ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนฯ และขิ่น อ่อง มิ้นต์ อดีตรัฐมนตรีวัฒนธรรม ได้เป็นประธานวุฒิสภา
รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวสมาชิกรัฐสภาหลายรายว่า พลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย วัย 78 ไม่ได้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้ที่มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อทั้ง 5 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณยุติอำนาจปกครองโดยตรงของเขาที่กินเวลายาวนานถึง 18 ปี แต่เชื่อแน่ว่าเขาไม่น่าจะวางมือ โดยคาดว่าตาน ฉ่วย อาจดำรงตำแหน่งอันทรงอิทธิพลในกองทัพต่อไป หรือมิเช่นนั้นก็อาจมีบทบาททางการเมืองที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง
“ในความเป็นจริงแล้ว ตราบใดที่ตาน ฉ่วย ยังเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด เขาจะยังมีอำนาจมากกว่าประธานาธิบดี” อ่อง เนียง อู นักวิชาการชาวพม่าและรองผู้อำนวยการสถาบันวาฮูดีเวลลอปเมนต์ซึ่งมีที่ตั้งในไทย กล่าว
การเสนอชื่อประธานาธิบดีและรองทั้ง 2 คนนั้น แบ่งเป็นผู้สมัครจากสภาล่าง, สภาสูง และผู้แทนที่มาจากการแต่งตั้งของกองทัพในทั้งสองสภา ในส่วนของสภาล่างนั้น ส.ส.รายหนึ่งเผยว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาของสภาผู้แทนฯ เห็นพ้องจะเสนอชื่อเทียนเส่ง หรือจ่อ เทียน อ่อง นักการเมืองชนกลุ่มน้อยเผ่ากะเหรี่ยง
สมาชิกสภาในสายกองทัพรายหนึ่งเผยว่า คณะกรรมาธิการของตนจะเสนอชื่อถิ่น อ่อง มินต์ อู ผู้บัญชาการอันดับ 5 ของกองทัพ ส่วนสภาสูงนั้น ส.ว.รายหนึ่งกล่าวว่า สมาชิกเห็นชอบว่าถ้าไม่ใช่เอ หม่อง ผู้นำพรรคพัฒนาชนเชื้อชาติยะไข่ ก็จะเป็นซาย โม คาม สมาชิกพรรคยูเอสดีพี โดยสภาได้เลื่อนประชุมไปจนถึงวันพฤหัสบดี เพื่อให้เวลาสมาชิกคณะกรรมาธิการพิจารณาคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดจากการลงมติของคณะกรรมาธิการพิเศษทั้งสามชุด จะได้เป็นประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี อีก 2 คนที่เหลือจะเป็นรองประธานาธิบดี จากนั้นประธานาธิบดีจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพม่าที่ร่างขึ้นภายใต้การกำกับการของคณะปกครองทหารเมื่อปี 2551 ระบุไว้ว่า ประธานาธิบดีควรเป็นบุคคลที่มีความคุ้นเคยด้านการเมือง, การบริหารจัดการ, เศรษฐกิจ และการทหาร
โดยทั่วไปคาดการณ์กันว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีพลเรือนคนแรกของพม่าน่าจะตกเป็นของเทียน เส่ง นายกฯ คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้นำลำดับ 4 ของกองทัพ ที่เกษียณจากกองทัพเพื่อมาลงเลือกตั้งในฐานะผู้นำพรรคยูเอสดีพี นักวิชาการพม่ารายเดิมให้น้ำหนักกับเทียน เส่ง เช่นกัน โดยเห็นว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ทุกฝ่ายในกองทัพยอมรับได้ เขายังมีภาพลักษณ์ซื่อสัตย์ ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะและไม่มีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เด่นชัด “เทียน เส่ง เป็นเดิมพันที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตาน ฉ่วย และสำหรับกองทัพที่จะครองอำนาจไว้ต่อไป ตาน ฉ่วย เลือกแทงม้าตัวที่เขารู้ว่าจะเข้าเส้นชัย” อ่อง เนียง อู ทิ้งท้าย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1955 ครั้ง