ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สั่งล่าตัวการใหญ่แก๊ง”อุ้มบุญ” ที่จ้างและบังคับหญิงสาวชาวเวียดนาม ให้ตั้งครรภ์เพื่อคลอดบุตรออกมาให้กับเศรษฐีชาวต่างชาติ เบื้องต้นเชื่อว่าอยู่นอกประเทศ แต่จะประสานให้จับกุมเพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยให้ได้
วันที่ 25 ก.พ. พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 สส.สตม. แกนนำหลักในการเข้าทลายและช่วยเหลือหญิงสาวชาวเวียดนาม ที่ถูกบังคับให้”อุ้มบุญ” เพื่อคลอดบุตรไปขายให้กับเศรษฐีต่างชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องว่า ขณะนี้ ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในส่วนแรก ตำรวจจะต้องดำเนินคดีในด้านการค้ามนุษย์กับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ ประกอบด้วยน.ส.เฉิน ไป่ หวัน อายุ 35 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายไช่ หลิง อี อายุ 26 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายซู อุย เฉียน อายุ 31 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายหลู ไข่ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน น.ส.ไช่ หยู่ หยุน อายุ 25 ปี สัญชาติ จีนไต้หวัน ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 79/246 หมู่บ้านธารารมย์ ซอยรามคำแหง 150 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ส่วนการสืบสวนสอบสวนในเรื่องของขั้นตอนต่างๆ อาทิ การส่งหญิงสาวไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเสรีรักษ์ จะมีขั้นตอนการดำเนินการของแก๊งอุ้มบุญอย่างไรนั้น ถือเป็นเรื่องทางการแพทย์ ที่ตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงไปได้ แต่ในวันนี้ เราจะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ถึงการดำเนินการตามขั้นตอนของแก๊งอุ้มบุญ อาทิ การแจ้งเกิดก็ดี การนำเด็กออกนอกประเทศก็ดี จะมีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่ ซึ่งเย็นวันนี้ น่าจะได้ข้อสรุป แล้วเราจะทราบถึงขั้นตอนการดำเนินการของแก๊งนี้ จากนั้น เราก็จะสามารถขยายผลจับกุม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนในเรื่องนี้ทั้งหมดได้
“ขณะเดียวกัน ในแนวทางการสืบสวน ตำรวจกำลังตามล่านาย เสียง ลุง โล หัวหน้าแก๊งตัวการใหญ่รายนี้อยู่ ซึ่งขณะนี้เชื่อว่า เจ้าตัวอยู่ต่างประเทศ และหากรู้ว่า อยู่ประเทศไหน เราก็จะประสานเพื่อให้จับกุมตัวการใหญ่ แล้วส่งเป็นผู้ร่ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในไทยเราให้ได้”พ.ต.อ.เฉลิมพลกล่าว
ก่อนหน้านี้ วันที่ 23 ก.พ. เวลา 18.00 น. พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม.พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 สส.สตม., พ.ต.ท.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ รอง ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.ทวีป ช่างต่อ สว.กก.2 บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง กก.2 สตม.,เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.เฉิน ไป่ หวัน อายุ 35 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายไช่ หลิง อี อายุ 26 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายซู อุย เฉียน อายุ 31 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายหลู ไข่ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน น.ส.ไช่ หยู่ หยุน อายุ 25 ปี สัญชาติ จีนไต้หวัน ได้ที่บ้านเลขที่ 79/246 หมู่บ้านธารารมย์ ซอยรามคำแหง 150 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเป็นบริษัท เบบี้ 101 จำกัด พบหญิงสาวชาวเวียดนามจำนวน 13 ราย โดยมี 7 คนที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด โดยทั้งหมดถูกกักตัวอยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สตม.
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้มีการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานและกักขังคนต่างด้าวไว้ จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 134/2554 เข้าทำการตรวจค้น พบ น.ส.ปราณี แซ่จัง อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.10 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ รับว่าเป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นตั้งแต่เวลา 12.15 น.เสร็จสิ้นการตรวจค้นเมื่อเวลา 14.30 น.
ผลการตรวจค้นพบว่า บริษัทดังกล่าวมีบุคคลต่างด้าวนั่งทำงานในหน้าที่ติดต่อลูกค้าทางโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บริการรับจ้างตั้งครรภ์ ตรวจสอบเบื้องต้นบริษัทดังกล่าวจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน และจากการสอบผู้ต้องหาข้างต้นให้การว่าได้มาทำงานให้กับนาย เสียง ลุง โล ในโดยมี น.ส.เฉิน ไป่ หวัน เป็นผู้จัดการดูแล และจากการตรวจค้นยังพบหญิงชาวเวียดนามจำนวน 9 คน ซึ่งมีเอกสารการเดินทางถูกต้อง
หญิงชาวเวียดนามทั้งหมดให้การว่า พวกตนเป็นผู้มารับจ้างให้ตั้งครรภ์แทนให้กับลูกค้าซึ่งมาขอใช้บริการกับบริษัทและยังมีหญิงชาวเวียดนามอีกจำนวนหนึ่งถูกแยกนำไปไว้ที่บ้านเลขที่ 79/256 หมู่บ้านธารารมย์ ซอยรามคำแหง 150 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและไม่ไกลจากบริษัทดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแยกไปทำการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว พบหญิงสาวชาวเวียดนามอีก 4 คนที่ถูกกักขัง โดยในจำนวนนี้ 2 กำลังตั้งครรภ์ นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบเอกสารหนังสือสัญญาเรื่องการจัดตั้งบริษัท และสัญญาว่าจ้างตั้งครรภ์ จึงทำการตรวจยึดเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิดมาตรวจสอบเพื่อขยายผลที่ สตม.
ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตัวแทนสหวิชาชีพจาก พม.ได้ร่วมกันสอบปากคำหญิงชาวเวียดนามที่ตรวจพบทั้งหมด ทราบว่าหญิงสาวเหล่านี้ได้ถูกนายเสียง ลุง โล และ น.ส.เฉิน ไป่ หวัน ชักชวนให้เดินทางจากประเทศเวียดนามมายังประเทศไทยเพื่อมาทำงานกับบริษัท แต่เมื่อมาถึงกลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้อีกทั้งได้ถูก น.ส.เฉิน ไป่ หวัน ยึดหนังสือเดินทางและยังเสนอให้ทำงานรับจ้างตั้งครรภ์ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการมีบุตรโดยได้รับค่าจ้างตอบแทนคนละ 5,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หากไม่ทำก็ไม่ได้เงินและไม่ให้หนังสือเดินทางเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ประเทศเวียดนาม
โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากหญิงสาวชาวเวียดนามจำนวน 4 รายที่บริษัทดังกล่าวล่อลวงมาได้แอบร้องขอความช่วยเหลือทางอินเทอร์เน็ตไปยังสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว โดยหญิงสาวชาวเวียดนามที่ตรวจพบในครั้งนี้เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์จำนวน 7 คน ต่างให้การยืนยันว่าได้ถูกนำตัวไปทำการนำไข่ที่ผสมแล้วฝังในครรภ์ที่ รพ.เสรีรักษ์ ถ.เสรีไทย แขวงและเขตมีนบุรี กทม.
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2018 ครั้ง