จักรทิพย์ควงวิชัย นำกำลังตำรวจ 750 นายขอคืนพื้นที่จากพันธมิตรฯ พร้อมเปิดการจราจรราชดำเนินนอกได้แล้ว 2 ช่องทางรวมทั้งคู่ขนานหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือดีไม่มีปะทะ
วันที่ 28ก.พ. เวลา 05.30น. ที่สะพานสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 นำกำลังตำรวจประมาณ 700 นาย ซึ่งเป็นหน่วยปจ.ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 1-2-7 และตำรวจสายสืบ จากกองบังคับการ1-9 ศูนย์สืบสวน เข้ารื้อเต้นท์ประมาณ 5-6 เต้นท์ และป้ายชุมนุมต่าง ๆ ออกเพื่อเปิดการจราจรบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หน้าทำเนียบ1 ช่องทาง
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารื้อเต้นท์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเต้นท์ของการ์ดผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมซึ่งมีอยู่ราว 200 คน ตกใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสลายม็อบ และเมื่อพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ทราบเรื่องจึงรีบขึ้นเวทีปราศรัยปลุกผู้ชุมชนให้มาร่วมร้องเพลงปลุกใจ และกำชับว่าห้ามตำรวจมาแตะต้องเนื้อตัวผู้ชุมนุมเป็นอันขาด
ผู้ต้องหาพกอาวุธปืนที่ตำรวจจับกุมได้
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชี้แจงว่า การขอคืนพื้นที่การจราจรดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามหน้าที่เพื่อให้การจราจรสามารถคลี่คลายไปได้ซึ่งการดำเนินการนั้นก็เรียบร้อยดี ขณะที่มีการรื้อเต็นท์การชุมนุมนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางแก้วตา รวยราบ อายุ 46 ปีพร้อมด้วยนายสมโชติ พิกุลทอง อายุ 47 ปีของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนรวม 5 นัด ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสองขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎจ 4415 กทม.ออกมาจาก ถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าแยกลานพระบรมรูปทรงม้า พบของกลางดังกล่าวภายในรถ
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนางแก้วตา ให้การว่า มารับนายสมโชติซึ่งคบหากันเป็นแฟนที่บริเวณพื้นที่ชุมนุม ส่วนอาวุธปืนและกระสุนปืนที่พบนั้น ได้เก็บไว้ภายในรถยนต์มานานแล้ว มีไว้ป้องกันตัว เพราะเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวไว้สอบปากคำ และแจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในทางถนน หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวถึงการขอคืนพื้นที่การจราจรว่า ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเส้นทางการจราจร ถนนราชดำเนินนอก ด้านคู่ขนาน ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ จนถึงแยกมิกสักวัน เพื่อผ่านคลายความแออัด และความคับคั่งการจราจร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางจราจรให้ได้ปกติ ซึ่งการปฏิติหน้าที่ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใดผู้ชุมนุมก็เข้าใจดี โดยที่ พล.ต.จำลอง ได้ชี้แจงให้ผู้ชุมชนทราบพร้อมกับให้ร้องเพลงปลุกใจขณะที่ตำรวจกำลังทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการขอพื้นที่คืนได้เปิดการจราจรในเวลา 06.30 น.จนถึงขณะการจราจรถนนคู่ขนานคล่องตัวดีบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถึงแยกสวนมิกสักวัน 2 ช่องทางซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เครื่องขยายเสียงชี้แจงการทำงานและไม่ได้ใช้อาวุธในการเข้าขอคืนพื้นที่แต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การขอคืนพื้นที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม.รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีเหตุปะทะใดๆ
ส่วนเครื่องใช้ของผู้ชุมนุมก็ได้มีการขนมาไว้บนทางเท้า เหลือเพียงถังปฏิกูลเท่านั้นที่ยังกีดขวางการจราจร จึงได้แจ้งให้แกนนำให้เคลื่อนย้ายออก ทั้งนี้จะมีการประสานให้ กทม. นำรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการแทน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ศอ.รส.ได้กำชับให้ตำรวจเน้นการเจรจาเป็นหลักในการเปิดการจราจรเส้นทางอื่นๆ โดยเฉพาะ ถ.พิษณุโลกและ ถ.ราชดำเนินนอก ช่องคู่ขนาน ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อจะให้ผู้ใช้รถสามารถสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้จะมีการผ่อนคลายกำลังเจ้าหน้าที่เป็นบางส่วน ดูแลในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะยังคงประจำในจุดดังกล่าวตลอด 24 ชม.
นอกจากนี้ได้รับแจ้งว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเปิดประตูใหญ่ฝั่งติด ถ.ราชดำเนินนอก ให้ข้าราชการเข้า-ออกได้ตามปกติ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าฝั่งสนามเสือป่า เบื้องต้นทราบว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมเจรจากับรัฐบาลเป็นผล จะมีการแยกย้ายกลับและสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1238 ครั้ง