วาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งลุ่มน้ำสายบุรี จ.ปัตตานี ป่วยหนัก นอนรักษาตัวที่ ร.พ.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่ 4 คืนแล้ว หลังญาตินำตัวส่ง แพทย์ตรวจพบมี 2 โรคเพิ่ม เส้นเลือดโป่งพองใกล้หัวใจ – ไตวายระยะสุดท้าย นอกเหนือโรคหัวใจที่เป็นอยู่ก่อน ญาติเผยทุกคนเตรียมทำใจไว้แล้ว
วันที่ 3 มีนาคม หลังจากที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ อายุ 95 ปี พระสหายแห่งลุ่มน้ำสายบุรี จ.ปัตตานี มีอาการป่วยหนัก และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์(มอ) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 27 ก.พ.54 ที่ผ่านมา โดยมีนายแพทย์สิริชัย ชีวธนากรณ์กุล แพทย์เจ้าของไข้ ขณะนี้ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย 1 จนถึงวันนี้ เข้าสู่วันที่ 5 ของการเข้ารับการรักษาอาการป่วยแล้ว โดยมีลูกหลานและญาติคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อาการป่วยโดยรวมของนายวาเด็ง หลังจากแพทย์ได้ตรวจดูอาการอย่างละเอียดแล้ว ทราบว่า อาการป่วยครั้งนี้ค่อนข้างหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากแพทย์ได้ตรวจพบโรคเพิ่มเติมอีก 2 โรค คือ โรคเส้นเลือดโป่งพองใกล้หัวใจ และโรคไตวายระยะสุดท้าย ซึ่งก่อนนี้ที่นายวาเด็ง เข้ารับการรักษาตัวอยู่ คือ โรคหัวใจ
น.ส.สารีนา เวาะฮะ หลานสาวซึ่งมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ก.พ.54 ที่ผ่านมา ปู่วาเด็งเริ่มมีอาการไข้ ร่วมกับอาการเหนื่อยหอบ ซึ่งจากการประเมินอาการเบื้องต้นของลูกหลานและเครือญาติ ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า ต้องนำตัวปู่วาเด็งส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากอาการป่วยครั้งนี้ค่อนข้างหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกส่งรักษาที่โรงพยาบาลยุพราชสายบุรี จากนั้น ถูกส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลปัตตานี และส่งต่อมายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์(มอ) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันเดียวกัน อาการป่วยครั้งนี้หนักกว่า ทุกครั้ง เพราะครั้งนี้ ทางหมอที่ตรวจดูอาการแจ้งว่า นอกจากป่วยเป็นโรคหัวใจแล้ว ยังได้ตรวจพบโรคเพิ่มขึ้นอีก 2 โรค คือ โรคเส้นเลือดโป่งพองใกล้หัวใจ และโรคไตวายระยะสุดท้าย พร้อมบอกกล่าวกับญาติว่าให้เตรียมใจ ทำใจไว้ ขณะเดียวกันหมอได้ตรวจดูอัตราการเต้นของหัวใจด้วย และพบว่า ปู่วาเด็ง มีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำมาก 20 ครั้งต่อนาที ซึ่งคนปกติหัวใจจะเต้น 80 ครั้งต่อนาที และตอนนี้แพทย์ก็ได้ให้ยากระตุ้นหัวใจมารับประทานเพื่อประคองอาการ เพราะจะรักษาให้หายนั้นยาก อีกทั้งอายุปู่วาเด็งก็มากแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดญาติตัดสินใจนำตัวปู่วาเด็ง กลับไปรักษาตัวที่บ้านพัก เพราะการผ่าตัดไตมีความเสี่ยง โดยแพทย์ให้ยากระตุ้นหัวใจ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1708 ครั้ง