นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปัตตานี โดยเฉพาะที่อำเภอโคกโพธิ์ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือของผู้นำศาสนา และชาวบ้าน ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ จนเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเคลื่อนไหวด้วยการปล่อยข่าวลือ และใบปลิวข่มขู่ห้ามผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา รวมไปถึงชาวบ้าน ในการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ หากไม่ปฏิบัติตามจะไม่รับรองความปลอดภัย กรณีการปล่อยข่าวลือและใบปลิวโจมตีว่าการเสียชีวิตของนายเจ๊ะอาลี จิยีมะ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอัสลาม (ป่าอ้อย) อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นั้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ใช่ความจริง เนื่องจากนายเจ๊ะอาลี เป็นหนึ่งในผู้นำที่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายบ้านเมืองเป็นอย่างดีมาตลอด
นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุคนร้ายยิงโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอัสลาม เสียชีวิตเมื่อวันที่3มี.ค.ที่ผ่านมานั้น นายเจ๊ะอาลี ได้นำบัตรเชิญร่วมงานแต่งงานบุตรสาวไปมอบให้กับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 24จึงเป็นไปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้นำศษสนาในชุมชนที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง อาจเป็นจากการกระทำของผู้ก่อความไม่สงบที่มุ่งปองร้ายผู้นำศาสนาที่ให้ความร่วมมือและให้ความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่รัฐ ก่อนจะฉวยโอกาสโบนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ราชการ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จากการติดตามสถานการณ์พบว่า แนวร่วมที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ มี2ส่วนคือกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ และกลุ่มที่มาจากนอกพื้นที่ และยังมีบางส่วนที่เป็นแนวร่วมรุ่นใหม่แต่เป็นจำนวนน้อย ที่สำคัญพื้นที่โคกโพธิ์ เป็นจุดที่มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภออื่นๆส่งผลให้การเคลื่อนไหวเข้าออกสามารถทำได้หลายช่องทาง โดยขณะนี้ทางการได้ข้อมูลบางส่วนแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงมือก่อเหคุลอบยิงพระขณะบิณฑบาตรเมื่อวันที่5มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงพระภิกษุในพื้นที่อำเภอโคกดพธิ์ขณะบิณฐาตรจนได้รับบาดเจ็บ และมรณะภาพเมื่อเช้าวันที่5 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้มรกระแสข่าวพร้อมใบปลิวจากผู้ไม่หวังดีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปฏิบัติการตอบโต้การลอบสังหารผู้นำศาสนาที่ถูกลอบยิงบ้านห้วยเงาะ หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ยืนยันว่าการปล่อยข่าวและใบปลิวหลังจากเกิดเหตุยิงพระในอำเภอโคกโพธิ์ เป็นความพยามยามของฝ่ายตรงข้าม ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงแล้ว นายเจ๊ะอาลี จิยีมะ อายุ 54 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอัสลาม (ป่าอ้อย) โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดี และมีความสนิทสนมกับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 24 เป็นผู้มีนำใจ เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เคยให้เจ้าหน้าที่ทหารโดยสารรถจักรยานยนต์ร่วมทางไปด้วยกันหลายครั้ง
ล่าสุดได้จัดงานแต่งงานบุตรสาวที่บ้านของตนเองเมื่อวันที่ 1 มี.ค.54 และได้นำบัตรเชิญงานแต่งงานดังกล่าวไปเรียนเชิญผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 24 ด้วยตนเอง ณ ที่ตั้งกองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 24 บ.ทุ่งพลา หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 ก.พ.54 ก่อนมาจบชีวิต เมื่อวันที่ 3 มี.ค.54 จากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มุ่งปองร้ายผู้นำศาสนาที่ให้ความร่วมมือและให้ความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่รัฐ
“อิหม่ามคนดังกล่าว เป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้อย่างเต็มที่มาโดยตลอด ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นความพยายามของคนร้ายที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ และ พยายามหาทางสกัดความร่วมมือของผู้นำศาสนากับทางราชการในการสร้างสันติสุขในพื้นที่”พ.อ.บรรพต กล่าว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มี.ค.54 เวลา 16.15 น. คนร้ายขับรถยนต์กระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ประกบยิงราษฎรเสียชีวิต 1 ราย คือ นายเจ๊ะอาลี จิยีมะ อายุ 54 ปี โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอัสลาม (ป่าอ้อย) กระสุนถูกศีรษะ เสียชีวิตหลังนำส่ง รพ.โคกโพธิ์ และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายอุเช็งตาแง เช็งตาแห อายุ 66 ปี บิหลั่นประจำมัสยิดเดียวกัน เหตุเกิดขณะผู้เสียชีวิตขับรถจักรยานยนต์และผู้บาดเจ็บซ้อนท้าย เดินทางกลับจากการประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ บนถนนหมายเลข 409 บ้านห้วยเงาะ หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1585 ครั้ง