เมื่อวันที่ 7 มี.ค. เวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรีกรณีผู้บริหารโรงเรียนวัดหนองจอกห้ามไม่ให้นักเรียนมุสลิมะฮฺ คลุมฮิญาบ ว่า วันนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังแก้ไขปัญหากันอยู่ กำลังสร้างความเข้าใจกันอยู่ ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องสร้างความเข้าใจ และวันที่ 9 มี.ค.นี้ตนได้รับการเชิญจากประเทศเยอรมนีเพื่อไปดูนโยบายเกี่ยวกับการกีดกั้นทางวัฒนธรรม เพราะในเยอรมนีมีมุสลิมอยู่จำนวนมาก และรัฐบาลเยอรมันก็พยายามแก้ไขปัญหาในเรื่องของการอยู่ร่วมกัน ไม่ให้เกิดการปะทะ หรือความรุนแรง จะไม่ให้มีการปิดกั้น หรือปิดกันทางวัฒนธรรม
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะในอดีตไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้น จุฬาราชมนตรีกล่าวว่า คิดว่าคงต้องเป็นอย่างนั้น และเราก็ต้องอยู่อย่างนั้นต่อไป ทางที่ดีต้องมีการสร้างความเข้าใจ อะไรที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติทางศาสนา ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ทุกคนก็ต้องเข้าใจ มิติของการคลุมผมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะในโลกนี้มีอยู่ทั่วไปในทุกพื้นที่ แม้แต่ในประเทศยุโรป สิงคโปร์ ซึ่งมีคนจีนอยู่ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ก็เห็นการคุมฮิญาบของเจ้าหน้าที่ราชการ ก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ได้อ่อนไหวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นประเทศไทยก็ต้องพัฒนาไปสู่ตรงนั้น ก็หวังว่า จะมีความเข้าใจกันได้ ซึ่งเรื่องนี้มีส.ส.ในพื้นที่ทำความเข้าใจอยู่
“สมัยที่ผมเรียนที่ปัตตานีเข้าไปในวัดก็แต่งตัวอย่างนี้ เข้าไปนั่งคุยกับพระสงฆ์ เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ในวัด ก็ไม่เห็นมีระเบียบอะไร ที่จะห้ามไม่ให้แต่งอย่างนี้ เพราะฉะนั้นตนคิดว่า ก็ต้องมีการทำความเข้าใจกัน” นายอาศิส กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1420 ครั้ง