วันที่ 11มี.ค. สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานเมื่อตอนค่ำ อ้างการเปิดเผยของตำรวจญี่ปุ่นว่า พบศพอย่างน้อย 200 ศพในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า พบศพราว 200-300 ศพนอกชายฝั่งเมืองเซนได
แผ่นดินไหวนอกชายเมืองเซนไดของญี่ปุ่น ขนาด 9 ริกเตอร์นับว่า รุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปี ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ถล่มชายฝั่งญี่ปุ่นสูง 7- 10 เมตร สร้างความเสียหายให้กับญี่ปุ่นอย่างรุนแรง
สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า รถไฟโดยสารขบวนหนึ่ง ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดหายไป เบื้องต้นไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้โดยสารอยู่ในขบวนรถกี่คน ด้านนายทาเคคิ มัตซึโมโตะ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของญี่ปุ่น ร้องขอให้กองทัพสหรัฐที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น เข้ามาช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
สนามบินเซนไดเสียหายหนัก
สนามบินเซนได ในจังหวัดมิยากิ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ภาพจาก NHK ได้แดงให้เห็นว่า สนามบินเซนได และรันเวย์โดยรอบ ถูกน้ำท่วม และไม่เห็นเครื่องบินอยู่ในบริเวณเทอร์มินอลแต่อย่างใด ซึ่งภายหลังพบว่า ความรุนแรงของสึนามิ ได้พัดพาเอาเครื่องบินไหลไปรวมกับรถยนต์ที่ถูกพัดลงทะเลก่อนหน้านี้
ด้านสนามบินฮาเนดะ และสนามบินนาริตะ ในกรุงโตเกียว ได้ปิดให้บริการ แม้จะมีรายงานออกมาบางช่วงว่า สนามบินฮาเนดะ สามารถเปิดให้บริการได้แล้ว ด้านโฆษกของสนามบินนาริตะ บอกว่าสนามบินได้ปิดให้บริการ แม้ว่าจะไม่ได้รับความเสียหาย แต่ก็พร้อมจะเปิดให้บริการใหม่ แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาไว้ว่าจะเริ่มต้นได้เมื่อใด ส่วนสนามบิน ชูบู เซนแทร ในเมืองนาโงย่า ระบุว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และเปิดให้บริการได้ตามปกติ
นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง ของญี่ปุ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานนิวเคลียร์ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของญี่ปุ่นวันนี้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือบริเวณใกล้เคียง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) กำลังติดต่อกับกระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเพื่อรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ขณะเดียวกันได้มีการปิดโรงงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 4 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดเพื่อความปลอดภัย
กระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นระบุว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมด 11 แห่งที่โรงงานนิวเคลียร์โอนากาว่า โรงงานฟูกูชิม่า หมายเลข 1 และหมายเลข 2 และโรงงานโตไก หมายเลข 2 ได้ถูกปิดลงโดยอัตโนมัติ หลังจากที่เกิดแผ่นไหว 8.9 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 14.46 น. (12.46 น.ตามเวลาประเทศไทย) ในวันนี้
กระทรวงฯ เปิดเผยว่า ยังไม่มีรายงานความผิดปกติใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์ แต่ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่อาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งของกังหันที่โรงงานโอนากาว่า ในจังหวัดมิยากิ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท โทโฮกุ อิเลคทริค พาวเวอร์ ขณะที่บริษัทปฏิเสธว่าไม่พบสัญญาณการรั่วไหลของรังสี
นายยูคิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรีคังได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อที่ทางการญี่ปุ่นจะได้ใช้มาตรการบรรเทาสาธารณะภัยฉุกเฉินได้โดยสะดวก พร้อมกับระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์ไม่จำเป็นต้องดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ
ยอดตายแผ่นดินไหวญี่ปุ่นพุ่ง90ราย
สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ พัดถล่มญี่ปุ่น ล่าสุด ปรับเพิ่มเป็นกว่า 90 รายแล้ว ขณะเดียวกันสำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า รถไฟโดยสารขบวนหนึ่ง ถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดหายไป เบื้องต้น ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้โดยสารอยู่ในขบวนรถกี่คน ด้านนายทาเคคิ มัตซึโมโตะ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของญี่ปุ่น ร้องขอให้กองทัพสหรัฐที่ประจำการอยู่ในญี่ปุ่น เข้ามาช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
รอยเตอร์รายงานมีผู้เสียชีวิตแล้ว 44 คน
ล่าสุด ทางการญี่ปุ่นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอย่างน้อย 32 คนแล้ว โดย 10 คนในจำนวนนี้เสียชีวิตเนื่องจากสึนามิในจังหวัดอิวาเตะ จังหวัดใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยางิ และยังมีบ้านเรือนพังถล่มราว 300 หลังในอิวาเตะ ขณะที่ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต44 ราย และบาดเจ็บจำนวนมากโดยคลื่นยักษ์สึนามิขนาด 10 เมตร ยังได้ถล่มท่าเรือเมืองเซนได แต่ยังไม่รายงานความเสียหาย
นอกจากนี้หลังจากแผ่นดินไหวทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอย่างน้อย 19 ครั้ง ส่วนใหญ่มีแรงสั่นสะเทือนกว่า 6 ริกเตอร์ และครั้งรุนแรงสุดวัดได้ 7.1 ริกเตอร์ สถานีโทรทัศน์เตือนให้ประชาชนอย่าออกจากอาคารสำนักงานเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากอาฟเตอร์ช็อครุนแรงมากกว่านี้
สึนามิน้อยๆโผล่ฟิลิปปินส์
ที่ฟิลิปปินส์ ได้เกิดคลื่นสึนามิขนาดย่อม พัดเข้าสู่ชายฝั่งของฟิลิปปินส์ แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือ ผู้บาดเจ็บ เนื่องจากคลื่นมีความสูงระหว่าง 30 เซ็นติเมตร ถึง 1 เมตรเท่านั้น แต่ก็ทำให้ประชาชนหลายพันคน พากันอพยพออกจากบ้านเรือน ในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ ด้านสถาบันแผ่นดินไหวและภูเขาไฟของฟิลิปปินส์ ระบุว่า สึนามิลูกแรก มีความสูงเพียง 60 เซ็นติเมตร ตอนที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งของจังหวัด คากายัน
ทางสถาบันได้จับตาการเกิดสึนามิ 4 ลูก ภายในเวลา 1 ชั่วโมง และยังได้ประกาศเตือนภัยสึนามิใน 19 จังหวัด ตลอดแนวชายฝั่งตะวันออก และสั่งอพยพประชาชน การเดินทางไปยังพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกโดยทางเรือถูกระงับทั้งหมด ทำให้ผู้โดยสารหลายร้อยคน ติดอยู่ที่ท่าเรือ สำนักงานป้องกันภัยพลเรือน ระบุว่า ประชาชนกวา 7 พันคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ในชุมชนชายฝั่งของจังหวัดคากายัน เพราะหวาดกลัวสึนามิ เช่นเดียวกับจังหวัดอิซาเบล่า ก็อพยพประชาชนกว่า 3,200 คนด้วย
ประธานาธิบดีเบนิโญ่ อากิโน่ ที่ 3 ที่อยู่ระหว่างการเยือนสิงคโปร์ ได้เรียกร้องให้ชาวฟิลิปปินส์ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เชื่อฟังคำเตือนของทางการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งผู้นำฟิลิปปินส์ มีกำหนดเดินทางกลับกรุงมะนิลา ในวันนี้
ส่วนที่อินโดนีเซีย ก็ตรวจจับสึนามิความสูง 40 เซ็นติเมตร ที่เกาะมานัส ในปาปัว นิว กินี แต่ไม่มีข้อมูลจากพื้นที่ในปาปัว นิวกินี ในพื้นที่ครึ่งของของอินโดนีเซีย บนเกาะ นิว กินี
แต่ทางการได้เตือนว่าอาจจะเกิดสึนามิ ที่หมู่เกาะโมลุกกะ ที่เป็นที่ตั้งของจังหวัดฮัลมาเฮร่า , สุลาเวสีเหนือ และพื้นที่ตะวันออกไกลของปาปัว
ประชาชนหลายพันคน ในพื้นที่ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ได้อพบยพจากบ้านเรือนไปขึ้นที่สูง หลังจากทางการเตือนภัยสึนามิ และยังคงตื่นตัวรับสถานการณ์ และใช้มาตรการ
ที่จำเป็น
สถานีโทรทัศน์ เมโทร ทีวี รายงานว่า ประชาชนในเมืองมินดาเนา บนเกาะสุลาเวสี ได้เตรียมตัวอพยพเช่นกัน และมีการเตรียมพร้อมสำหรับการส่งทีมกู้ภัยไปยังพื้นที่เปราะบางด้วย
ภูเขาไฟปะทุพ่นแก๊สและลาวาในอินโด
ทางการอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ภูเขาไฟการันเกตัง ที่ได้ชื่อว่า มีการปะทุบ่อยที่สุดลูกหนึ่งของอินโดนีเซีย ได้เกิดการปะทุขึ้น ส่งผลให้ลาวาและกลุ่มแก๊สพวยพุ่งออกมา และไหลลงไปตามเชิงเขา ทางการกำลังพยายามอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาออกไป แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง หรือผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
ภูเขาไฟ การันเกตัง ซึ่งมีความสูง 5,853 ฟุต ตั้งอยู่บนเกาะเซียอู ในหมู่เกาะสุลาเวสี และเพิ่งจะปะทุครั้งสุดท้าย ไปเมื่อเดือนสิงหาคม ขณะที่อินโดนีเซีย ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เป็นที่ตั้งภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า ” วงแหวนแห่งไฟ ” ที่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ และรอยเลื่อนแปซิฟิก อีกด้วย ส่วนการปะทุล่าสุด ได้มีขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่ญี่ปุ่น และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ
มีรายงานประชาชนบนเกาะมินดาเนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือ หลายพันคน ได้พากันหนีออกจากบ้านเรือน หลังทางการประกาศเตือนภัยสึนามิ ที่อาจสูงถึง 6 เมตร ในขณะพัดเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่ง มีหลายคนกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ มุ่งหน้าขึ้นที่สูง ท่ามกลางเสียงไซเรน อีกหลายคนไปอยู่ในมัสยิด สถานีตำรวจ หรือไม่ก็ค่ายทหาร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2494 ครั้ง