วันที่ 24 มีนาคม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร์ประชาชนเพื่อนประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีว่า กรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกว่ามีคนอยู่บางประเภทไม่อยากให้มีการเลือกตั้งนั้น เขาพูดไม่ผิดหรอกครับ ผมนี่แหละเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง
และผมจะเล่าให้ฟังว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมองว่าการมีนักการเมืองเข้ามาปกครองประเทศ ในช่วงที่โลกวิกฤตนี้ มีแต่จะทำให้ประเทศไทยพินาศฉิบหายอย่างแน่นอน เดี๋ยวนี้เราจะมองเฉพาะประเทศไทยประเทศเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมอบรอบโลก ทั่วโลก ซึ่งมีผลกระทบกับประเทศไทย
ถ้าชาติบ้านเมืองไม่มีผู้บริหารที่กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ และที่สำคัญที่สุดทำเพื่อส่วนรวมแล้ว ประเทศไทยฉิบหายแน่นอน และการแก้ไขวิกฤติของชาติจากนี้ไปจะแก้ด้วยการเมืองไม่ได้ ต้องใช้ความซื่อสัตย์ จริยธรรมที่สูง และความกล้าหาญเข้ามาแก้ ที่สำคัญที่สุดต้องแก้เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อสนองตัณหาคนอยากเป็นนายกฯ และความโลภของคนอยากเป็นรัฐมนตรี
“ผมบอกมาตลอดว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคือความหวังสุดท้ายของการเมือง วันที่อภิสิทธิ์ขึ้นมานั้น เราก็หวังว่าเขาเป็นเหมือนแสงสว่างในห้องที่มืดมิด และแสงอันนี้ ถ้าเขาดำรงอยู่เหมือนเทียนเล่มหนึ่งที่เขาจุดขึ้นมา พวกเราก็จะเอาเทียนไปจุดต่อเพื่อให้ห้องนั้นสว่าง แต่ปรากฏว่าเทียนของเขาจุดแค่วูบเดียวให้เราเห็นหลงดีใจก็ดับมืดไป เป็นห้องที่มืดอยู่เหมือนเดิม คำว่าอภิสิทธิ์ คือนักการเมืองคนหนึ่งที่ไม่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นคำกล่าวที่ ณ วันนี้ ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว” เขา กล่าว
“อยากจะเรียนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทราบ ว่านายอภิสิทธิ์ คือสิ่งที่พวกคุณประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อหวังว่า พล.อ.ประวิตรจะได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม และหวังว่าจะได้มาช่วยน้องชายคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และขณะเดียวกันจะได้ให้คุณ พล.อ.อนุพงษ์ได้เกษียณอายุราชการลงอย่างสวยงามโดยไม่ต้องสนใจเรื่องเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง และให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตีกินต่อไปอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้”
วันนี้ ตัวเองมีอำนาจ ตัวเองก็บอกว่าให้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ ผมเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ยังไม่เคยเห็นใครโกหกตอแหลได้เก่งเท่าคุณอภิสิทธิ์เลย
ครั้งนี้ เราจะเชิญชวนให้ประชาชนทุกคน ถ้ามีการเลือกตั้ง ให้โนโหวตกันทั้งประเทศ และเราในฐานะที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นผู้ให้กำเนิดพรรคการเมืองใหม่ ใช่ไม่ใช่
ในเมื่อการเมืองมันเน่า การเมืองมันเลวแบบนี้ แกนนำมีมติเสนอให้พรรคการเมืองใหม่อย่าส่งคนลงเลือกตั้ง การเมืองน้ำเน่าแบบนี้ ไม่ควรจะร่วมสังฆกรรมด้วย วันนี้เป็นเรืองของอุดมการณ์ ไม่ใช่การสนองตัณหาของใครบางคนที่อยากจะลงเลือกตั้ง ถ้าคนบางคนในพรรคการเมืองใหม่คิดว่าจะอยู่ได้โดยไม่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ให้มันรู้ไป
ถ้าพรรคมีมติให้ส่งคนลงเลือกตั้ง พี่สมศักดิ์และสุริยะใสต้องประกาศตัวชัดเจนว่าจะอยู่กับพันธมิตรฯ หรือจะอยู่พรรคการเมืองใหม่ ถ้าจะอยู่กับพันธมิตรฯ ก็ขอให้ลาออกจากพรรคการเมืองใหม่จุดยืนชัดเจนไม่เคยเปลี่ยนแปลง อยากจะให้คุณสุริยะใสรับทราบเอาไว้เรื่องนี้
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1210 ครั้ง