รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ประสานขอกำลังทหารเรือ-ทหารบก เข้าเคลียพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกว่า 300 ครัวเรือน หลังติดค้างถูกตัดขาดโลกภายนอกจากเหตุดินถล่ม 3 ตำบล พื้นที่ อ.เขาพนม พบดับแล้ว 1 ราย สูญหายนับ 100 คน
นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการประสานขอกำลังในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารเรือหน่วย น.ย. 411 ตลอดจนทหารบก และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ในการร่วมเข้าเคลียพื้นที่และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังจากติดค้างและถูกตัดขาดจากโลกภายนอกจากเหตุดินถล่ม พื้นที่ ม. 7 ต.หน้าเขา , ม. 6 ต.โคกหาร และ ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ โดยเบื้องต้นคาดว่ามีประชาชนติดค้างอยู่ประมาณกว่า 300 ครอบครัว และจากรายงานขณะนี้มีประมาณ 100 คนถูกดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากพัดสูญหายไป และขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 1 คน เป็นเพศหญิงเบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อและสกุล อายุประมาณ 20-25 ปี
“ยอมรับว่าการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนถูกปิดกั้นด้วยดินที่สไลด์ลงมาเป็นช่วงๆ และบางจุดยังถูกกระแสน้ำตัดขาดประกอบกับกระแสน้ำเชี่ยวกราดมากไม่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้ ที่สำคัญในพื้นที่ยังคงเกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีการเดินเท้าเข้าไปช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าขั้นตอนการช่วยเหลือดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ส่งผลให้การติดต่อข่าวสารเป็นไปด้วยความลำบาก” นายสมาน กล่าว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัย ในเบื้องต้นทางจังหวัดกระบี่ได้เตรียมขนย้ายออกจากพื้นที่โดยเร็ว และจัดหาที่พักชั่วคราวให้ สำหรับในส่วนของผู้ประสบภัยที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจะมีการให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไป
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนใต้ยังหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยเรื่อง สภาวะน้ำท่วมในภาคใต้ ฉบับที่ 16 ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ต่อไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากต่อไปอีก ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.) บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร มีอากาศเย็นต่อไปอีก 1-2 วัน แต่อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นในตอนกลางวัน
ถนนหลายสายถูกตัดขาด
นายจักร์พงศ์ เปี่ยมเมตตา นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งจาก นายกิตติคุณ เอี่ยมเจริญ หัวหน้าหมวดการทางหลังสวนว่าได้เกิดดินโคลนจากภูเขาข้างทางไหลถล่มลงมาทับ ถนนเอเซีย41 ในช่วง หลัก กม.ที่ 100+73 ในช่องทางขาล่องใต้ จาก กทม. 573 กม. ช่วง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปยัง จ.สุราษฏร์ธานี พื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หมวดการทางหลังสวน เครื่องจักร อุปกรณ์ ต่างๆเพื่อนำดินออกจากจุดที่เกิดเหตุ หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวนและ ตำรวจ สภ.หลังสวน มาอำนวยความสะดวกทางด้านการจราจร โดยต้องปิดช่องทางขาล่องใต้ ให้รถเบี่ยงไปใช้ช่องทางขาขึ้น กทม.แทน
นายจักร์พงศ์ เปี่ยมเมตตา นายอำเภอหลังสวน กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ชุมพร ทำให้ดินภูเขาขนาดไม่สูงมาก ในจุดดังกล่าว อุ้มน้ำไม่ไหว เลื่อนไหลลงมาทับเส้นทางถนนเอเซีย41 ทั้ง2ช่องการจราจร ในช่องทางขาล่องใต้ จึงได้สั่งการให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน คาดว่าจะใช้เวลา ประมาณ 2 ชม.จะสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ โชคดีที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เนื่องจาก เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงดึก ในขณะที่ฝนยังคงตกหนักตลอดเวลาในพื้นที่ จ.ชุมพร ทำให้ระดับน้ำยังคงท่วมสูงต่อไปในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร
นครประกาศถนน 11 สาย
นายวิชิต เพชรยอด ประชาสัมพันธ์ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกหนังในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง โดยล่าสุด ทางจังหวัดได้สรุปความเสียหายของเส้นทางจราจรสายต่างๆ พร้อมประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางต่อไปนี้
1. ทางหลวงหมายเลข 41 ตอน อำเภอทุ่งสง-อ.ร่อนพิบูลย์ ระหว่างกิโลเมตรที่ 242+600 – 243+000 หรือบริเวณตำบลปากแพรก มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง (สี่ช่องจราจร) ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้
2. ทางหลวงหมายเลข 41 ตอน อ.ร่อนพิบูลย์-ท่าประจะ ระหว่างกิโลเมตรที่ 39+400 – 39+800 บริเวณบ้านควนหนองหงส์ อำเภอชะอวด มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง (สี่ช่องจราจร) ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้
3. ทางหลวงหมายเลข 4015 ตอน อ.ลานสกา-อ.ฉวาง ระหว่างกิโลเมตรที่ 44+200 – 44+500 บริเวณบ้านหลักช้าง อำเภอช้างกลาง น้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร การจราจรรถเล็กผ่านไม่ได้
4. ทางหลวงหมายเลข 4110 ตอน อ.ทุ่งสง-อ.ทุ่งใหญ่ ระหว่างกิโลเมตรที่ 18+130 – 18+180 บริเวณบ้านเขาขาว อำเภอทุ่งสง มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้
5. ทางหลวงหมายเลข 4110 ตอน อ.ทุ่งสง-อ.ทุ่งใหญ่ ระหว่างกิโลเมตรที่ 31+710 – 31+730 บริเวณบ้านกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้
6. ทางหลวงหมายเลข 4228 ตอน อ.ถ้ำพรรณรา-ทานพอ ระหว่างกิโลเมตรที่ 1+900 – 2+100 บริเวณบ้านตำบลถ้ำพรรณรา อำเภอถ้ำพรรณรา มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 15 เซนติเมตร การจราจรผ่านได้
7. ทางหลวงหมายเลข 4151 ตอน ควนหนองหงส์ – กะปาง ระหว่างกิโลเมตรที่ 42+300 – 42+350 และระหว่าง กิโลเมตรที่ 43+050 – 43+100 ดินสไลด์ทับผิวทางและไหล่ทางด้านซ้ายทางและขวาทาง การจราจรผ่านไม่ได้
8. ทางหลวงหมายเลข 4015 ตอน ฉวาง-บ้านส้อง ระหว่างกิโลเมตรที่ 2+200 – 2+600 บริเวณบ้านไสหร้า อำเภอฉวาง มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 60 เซนติเมตร การจราจรผ่านไม่ได้
9. ทางหลวงหมายเลข 4015 ตอน ลานสกา-ฉวาง บริเวณบ้านช้างกลาง กิโลเมตรที่ 26+400 มีดินสไลด์และคอสะพานทรุดตัว กรจราจรผ่านได้ 1 ช่องจราจร ,ระหว่างกิโลเมตรที่ 24+600-24+650 มีดินสไลด์ทับผิวทางและไหล่ทางการจราจรผ่านได้ 1 ช่องจราจร และระหว่างกิโลเมตรที่ 44+200-44+500 ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร การจราจรรถเล็กผ่านไม่ได้
10. ทางหลวงหมายเลข 4019 ตอน ทุ่งใหญ่-ควนพลอง ระหว่างกิโลเมตรที่ 1+300 – 2+000 บริเวณบ้านปริก อำเภอทุ่งใหญ่ มีน้ำท่วมด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร การจราจรรถผ่านไม่ได้
11. ถนนเส้นลานสกา-จันดี บริเวณบ้านเขาธง เขตเชื่อมต่ออำเภอลานสกา และอำเภอช้างกลาง มีดินสไลด์ปิดถนนเต็มพื้นที่ ความยาวประมาณ 100 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
12. ถนนสายทุ่งใหญ่ และพื้นที่ในตัวอำเภอทุ่งใหญ่ บริเวณสี่แยกไฟแดงน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
13. ทางหลวงหมายเลข 41 ตอน อำเภอทุ่งสง-อ.ร่อนพิบูลย์ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง และบริเวณบ้านไม้หลามีน้ำท่วมขังสูงและได้ปิดการเดินทางตั้งแต่สามแยกสวนผัก-นครศรีธรรมราช
สงขลาวิตกน้ำท่วม
นายดนัยวิทย์ สายบัณฑิตย์ ผ.อ.โครงการชลประทานสงขลา เปิดเผยว่า จากภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่สงขลา ประกอบกับน้ำจากพื้นที่พัทลุง และนครศรีธรรมราช ซึ่งไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา ประกอบกับขณะนี้ระดับน้ำในทะเลสาบสงขลาหนุนสูง ทำให้พื้นที่อำเภอระโนด และอำเภอกระแสสินทธ์ ซึ่งอยู่ริมทะเลสาบมีโอกาสสุ่มเสี่ยงที่นำจะเอ่อไหลเข้ามาท่วมขังในบางจุดได้ โดยสถานการณ์น้ำในทะเลสาบสงขลาขณะนี้มีปัจจัยสำคัญคือระดับปริมาณฝนที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะตกหนักมากน้อยเพียงใด ประกอบกับปริมาณน้ำจากพัทลุงที่ระบายลงสู่ทะเลสาบในขณะนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ชลประทานต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระยะเพื่อความไม่ประมาทแม้นเวลานี้จะยังไม่อยู่ในจุดวิกฤต หรือเข้าสู่ขั้นอันตรายก็ตาม
“สถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ล่าสุดได้สั่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมด้วยการปิดประตูควบคุมน้ำที่ในพื้นที่อำเภอกระแสสินธ์ซึ่งมี10ประตู เพื่อปั๊มน้ำและระบายน้ำออกกรณีที่น้ำทะเลสาบหนุนสูงและเอ่อไหลเข้าสู่พื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ระโนด และกระสินธ์ มีระดับน้ำในแผ่นดินบวก0.5 ในขณะที่ระดับในทะเลหนุนสูงประมาณ1.15 โดยน้ำทะเลสูงกว่าประมาณ50-60เซนติเมตร จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำประจำจุดต่างๆที่สำคัญทั่วพื้นที่”นายดนัยวิทย์ กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1458 ครั้ง