ชุดค้นหาผู้สูญหายเหตุดินถล่ม อ.เขาพนม พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม สรุปยอดรวม ตาย 5 สูญหาย 5 นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตรายละ 5 หมื่นบาท ซึ้งเด้กชายวัย 11 เสี่ยงชีวิตช่วยน้อง 2 ขวบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางอัญชลี วานิชเทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล และนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงพื้นที่ตำบลหน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่
ทั้งนี้เมื่อเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินจังหวัดกระบี่ นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยของจังหวัดกระบี่ และรายงานยอดผู้เสียชีวิต 5 ราย จากเหตุดินโคลนถล่มที่เขาพนม รวมถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มอบเงินอุดหนุนซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย หลังละ 3 หมื่นบาท และขอเงินจากกาชาดช่วยหลังละ 2 หมื่น ให้กับคณะนายกรัฐมนตรีทราบ และได้ของบประมาณปี 2555 จำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อทำแนวเขตป่าเขาพนม ป้องกันดินโคลนถล่ม
นายกฯได้กำชับให้เตือนภัยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงรับทราบ และให้รีบอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เคยประสบภัยจะนึกสถานการณ์ไม่ออก และจะไม่ยอมออกจากพื้นที่เพราะเป็นห่วงบ้าน ดังนั้นต้องเตือนให้คำนึงถึงความปลอดภัยก่อน
จากนั้น คณะนายกรัฐมนตรีออกเดินทางไปยัง ต.หน้าเขา อ.เขาพนม และเดินสำรวจพื้นที่ที่ยังเต็มไปด้วยโคลนและซากต้นไม้ และได้เดินทางไปที่วัดถ้ำโกรก หมู่ 2 ที่เป็นศูนย์อพยพ พร้อมทั้งได้เยี่ยมประชาชนและมอบเงินให้กับญาติผู้เสียชีวิตรายละ 5 หมื่นบาท
ด้านนายวิสุทธิวงศ์ อนันตพงศ์ ปลัดจังหวัดกระบี่ ในฐานะหัวหน้าทีมชุดค้นหาผู้สูญหายกรณีน้ำและดินโคลนถล่มในพื้นที่ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ กล่าวว่า ในวันที่ 31 มี.ค.ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ โดยพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 5 ราย ส่วนผู้สูญหายมีทั้งสิ้น 5 ราย เช่นกัน ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีประมาณ 40 ราย
สภาพพื้นที่ประสบภัย เต็มไปด้วยดินโคลน หิน และเศษซากไม้ที่ทับถมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการค้นหาผู้สูญหาย รวมทั้งสภาพอากาศในพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากฟ้าปิดตลอดทั้งวันรวมทั้งมีฝนตกในบางช่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้หยุดการค้นหาเมื่อเวลา 16.00น. เพราะในพื้นที่ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอและจะเริ่มค้นหาใหม่ในช่วงเช้าของวันที่ 1 เม.ย.นี้
ด้านผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและได้กลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวที่ศูนย์อพยพทั้ง 3 แห่งในพื้นที่อ.เขาพนมแล้ว
ขณะที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็ว จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 8 คน ได้เดินทางเข้าไปดูแลประชาชนที่ประสบภัยดินถล่มแล้ว โดยได้ตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราวที่วัดถ้ำโกบ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม เพื่อดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ ซึ่งโรงพยาบาลสนามจะมีเตียงรับผู้ป่วย เวชภัณฑ์การรักษา ชุดทำแผล ชุดใส่เฝือก หากมีผู้ป่วยหนักจะส่งรักษาต่อในโรงพยาบาลเขาพนม หรือที่โรงพยาบาลอื่นตามความเหมาะสม
ด้าน นายจินดา ไทยแท้ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 7 บ้านต้นหาร ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ เล่านาทีระทึกที่เอาชีวิตรอดจากดินถล่มว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นมาเร็วมาก โดยที่ไม่มีใครได้คาดคิดมาก่อนเลย หลังฝนตกหนักมาหลายวัน ในเช้าวันที่ 29 มี.ค.ฝนก็ตกลงมาหนักจนมีน้ำไหลมาตามคลองมากกว่าที่เคยเป็น แต่ก็ไม่มีคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงเช่นนี้ แต่ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของ วันที่ 29 มี.ค.ก็ได้ยินเสียงลั่นคล้ายกับก้อนหินกระทบกันดังมาจากเขาพนมที่อยู่หน้าบ้าน
“เมื่อหันไปดูก็เห็นมีน้ำเป็นลูกๆม้วนมาพุ่งมาทางหมู่บ้าน ซึ่งบ้านของผมจะอยู่ห่างจากเข้าประมาณ 500 เมตร ลูกแรกก็ผ่านใต้บ้าน ทำให้ชาวบ้านรีบพากันหนีไปอยู่บนเนินที่สูง จากนั้นได้มีคลื่นน้ำไหลตามมาหลายลูกติดๆกัน พร้อมกับท่อนซุงจำนวนมากเข้าซัดบ้านและรถยนต์และชาวบ้านที่กำลังวิ่งหนีหายไปกับน้ำ”นายจินดากล่าว
ในจำนวนผู้บาดเจ็บ มีเด็กชาย 11 ขวบ ที่ช่วยชีวิตน้องชายวัย 2 ขวบเศษรวมอยู่ด้วย คือ ด.ช . จักรกฤษ ชูศรี อายุ 11 ขวบ ซึ่งกำลังจะเป็นนักเรียนชั้น ป .5 โรงเรียนบ้านถ้ำโกบ ต. หน้าเขา อ.เขาพนม
ด.ช . จักรกฤษ กล่าวว่า ในตอนที่เกิดเหตุนั้นที่บ้านมีกันอยู่ 5 คน โดยเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 29 มี.ค. ขณะที่เล่นกับน้องภายในบ้าน ก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนบอกว่า น้ำป่ามาแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนต่างก็พากันวิ่งหนี แต่สุดท้ายก็วิ่งหนีไม่ทัน น้ำป่าพร้อมด้วยดินโคลนสีแดงไหลลงมาอย่างรวดเร็วมาก จนซัดพาตนเองหกล้ม รวมถึงน้องชายวัย 2 ขวบ ด้วย
ระหว่างนั้นก็ไม่ทราบว่า พ่อแม่และพี่น้องคนอื่นหายไปไหน จนกระทั่งตนเองลุกขึ้นยืนได้ ก็เหลือบเห็นน้องชายถูกกระแสน้ำป่าและดินโคลนซัดมาติดซากท่อนไม้โดยมีกิ่งไม้ขนาดเล็กอัดหนีบไว้ จึงได้เดินฝ่าแรงน้ำและดินโคลนเข้าไปช่วยเหลือน้องชาย จากนั้นอุ้มน้องชายเดินฝ่าออกมาจนปลอดภัย ก่อนที่จะมีคนมาช่วยนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขาพนม
สำหรับตนเองนั้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาขวา แผ่นหลัง และใบหน้า ส่วนใหญ่จะเป็นรอยถลอก ขูดขีด จากซากท่อนไม้ เศษไม้ที่ถูกน้ำและดินโคลนซัดลงมา ขณะที่น้องชายศีรษะแตก มีแผลที่มือซ้าย ใบหน้า และที่บริเวณต้นขาขวา แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว จึงอยากขอบคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือในวันนั้นด้วยที่ได้นำพามาส่งโรงพยาบาล
“ถ้าวันนั้น ผมมีอาการตกใจมาก จนตั้งสติไม่ได้ ผมและน้องชายคงเอาชีวิตไม่รอด และตัวของน้องชายเองก็ถือว่าโชคดีมาก ที่ไม่โดนท่อนซุง หรือท่อนไม้ขนาดใหญ่พุ่งเข้าชน และไม่โดนน้ำป่าที่ไหลหลากมากับดินโคลนซัดพาจมหายไป ” ด.ช. จักรกฤษ กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1332 ครั้ง