จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทเจ้าของค่ายเบียร์ เคยแจกปฏิทินโป้ในทำเนียบ จะลงส.ส.ในเขตมุสลิม

การเสียชีวิตของนายทิวา เงินยวง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งมีผู้แจ้งความจำนงที่จะลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์หลายคน รวมทั้ง น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทเจ้าของเบียร์สิงห์ เครื่องดื่มที่ต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม ทำให้เธอถูกจับตามอง เพราะเขตที่จะมีเลือกตั้งซ่อม มีมุสลิมอยู่จำนวนมาก
 
น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทเจ้าของเบียร์สิงห์ กล่าวว่า สนใจลงสมัคร ส.ส.ตั้งแต่เขียนใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และล่าสุดได้เสนอตัวเข้ารับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 6 แทนนายทิวา เงินยวง ส่วนตัวได้เตรียมตัวและมีความพร้อมที่จะลงสมัครแน่นอน ที่ผ่านมาได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และนายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กรุงเทพฯ เขตเดียวกับนายทิวา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยดี เพราะทุกคนทราบดีว่าอยากจะลงสมัคร แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค หากไม่ได้ลงสมัครในครั้งนี้ก็ไม่เป็นอะไร สามารถรอสมัครในครั้งต่อไปได้ ส่วนที่เธอจะลงในเขตมุสลิม เธอ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ซึงเป็นเรื่องดีทื่จะได้เรียนรู้ศานาใหม่

เมื่อปลายปี 2552 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) น.ส.จิตภัสร์ เคยตกเป็นข่าวข่าวครึกโครม ด้วยการนำปฏิทินลีโอที่มีภาพดารานางแบบถ่ายภาพเพ้นต์มาแจกข้าราชการและนักข่าวถึงในทำเนียบรัฐบาล ทำให้มีเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางจนเธอต้องลาออกจากตำแหน่งเพิ่อแสดงความรับิดชอบ

“ตั๊น-จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี” ในวัย 24 ปี เป็นทายาทของ จุตินันท์ – หม่อมหลวงปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี แห่งอาณาจักรสิงห์ บริษัทธุรกิจเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าอนาคตของเธอถ้าไม่วนเวียนอยู่ในแวดวงธุรกิจซึ่งเป็นงานหลักของตระกูล ก็น่าจะอยู่ในวงการบันเทิงตามกระแสยอดนิยมของไฮโซในปัจจุบัน กลับกลายเป็นว่าผิดถนัดเพราะความฝันของสาวน้อยคนนี้ยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก เมื่อเธอปฏิเสธโอกาสที่จะเข้าวงการบันเทิงและเลือกทำงานสายการเมืองแทน

คุณแม่เธอ ส่งไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่อายุเพียงแค่ 9 ขวบด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของลูกสาว จากนั้นจึงจบปริญญาตรี คณะภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ประเทศอังกฤษ และ ปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยรีเจนท์ส คอลเลจ ประเทศอังกฤษ ผ่านการฝึกงานตั้งแต่อายูแค่ 16 ปีจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างเช่นที่บริษัทโฆษณา Blue UIR Advertising, บริษัท Orange (True Move), Christian Dior ประเทศฝรั่งเศส และบริษัทโพลีพลัสเอ็นเตอร์เทนเม้นท์

นอกจากด้านธุรกิจแล้วเธอยังทำงานด้านการกุศลด้วยโดยเป็น NGO ของโครงการ PDA (Population and Community Development Association) ที่จังหวัดกระบี่และไปเป็นครูสอนเด็กที่บุรีรัมย์ ปัจจุบันนี้เธอทำงานเป็นข้าราชการด้านการเมืองในตําแหน่งสํานักเลขาธิการนายก ของดร.ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกสํานักนายกรัฐมนตรี จัดเป็นสาวสวยมากดีกรีที่สุดคนหนึ่งในรุ่นราวคราวเดียวกัน ยิ่งทำให้เธอเป็นที่ต้องการของหลายๆ วงการรวมทั้งวงการบันเทิงด้วย

“ที่ผ่านมาตั๊นก็ได้รับโอกาสนี้ แต่ก็ยังไม่ได้เลือกรับโอกาสนั้น เพราะตั๊นวางแผนอนาคตของตัวเองแล้วว่า เราต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่ ตั๊นมองเลยไปถึงอนาคตข้างหน้าด้วยค่ะ ตั๊นคิดแล้วว่า อนาคตข้างหน้าเราต้องการจะทำงานด้านการเมือง แต่ถ้าหากเราเข้ามาทำงานด้านนี้ก่อน คนทั่วไปอาจจะไม่ยอมรับเรา ยิ่งสิ่งที่ตั๊นฝันไว้ คือการก้าวขึ้นไปนั่งเก้าอี้นายกฯ เชื่อว่าหลายคนยังไม่ไว้ใจเรา และยิ่งถ้าเรามาเป็นดาราก่อน คนเขาจะยอมรับได้เหรอ ตั๊นคิดว่า คนที่จะเข้ามาดูแลบ้านเมืองได้ ก็ต้องมีพื้นฐานที่ดี มีภาพพจน์ที่ขาวสะอาด ประสบการณ์ที่ดีทำให้คนอื่นเชื่อถือได้ค่ะ”