รัฐบาลอินเดียอาจตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเพื่อช่วยให้บริษัทพลังงานของรัฐบาลไล่ซื้อสินทรัพย์ด้านพลังงานในต่างประเทศแข่งกับจีน จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวจากรัฐบาล
กระทรวงน้ำมันได้ขอร้องมาทางกระทรวงการคลังของอินเดียเพื่อให้อนุมันติการใช้เงินส่วนหนึ่งจากทุนสำรองมูลค่ากว่า 254,000 ล้านดอลลาร์ ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยจากรัฐบาลกล่าว
“กองทุนนี้จะได้รับการต้อนรับอย่างดีมากๆ หากเราต้องแข่งขันกับจีน” นายอาร์ เอส ชาร์มา ประธานกรรมการและักรรมการผู้จัดการบริษัท โอเอ็นจีซี หรือ Oil & Natural Gas Corp. รัฐวิสาหกิจด้านสำรวจพลังงานรายใหญ่ที่สุดของอินเดียกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับบลูมเบิร์กจากกรุงนิวเดลี
ขณะนี้อินเดียยังคงตามหลังจีนในการไล่ซื้อกิจการน้ำมันในต่างประเทศทั้งนี้ ONGC ต้องเผชิญการแข่งขันกับคู่แข่งจากจีนทั้ง เปโตรไชน่า และ ซีนุคในการไล่ล่าทรัพยากรทั่วโลกเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน 2 เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่มีประชาการและอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก ในปี 2009 ที่ผ่านมา บริษัทจีนทุ่มเงินกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ไล่ซื้อแหล่งทรัพยากรทั้งน้ำมัน ถ่านหิน และโลหะในแอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลีย ขณะที่อินเดียมีดีลซื้อกิจการทรัพยากรแค่ดีลเดียวคือ การซื้อกิจการพลังงานสัญชาติอังกฤษ อิมพีเรียล อีเนอร์จี้ มูลค่า 1,400 ล้านปอนด์หรือ 2,100 ล้านดอลลาร์ เมื่อปีที่แล้ว
“อินเดียต้องเร่งเครื่องการไล่ซื้อพลังงานในต่างประเทศเพื่อรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ” นายธรรมะกีรติ โจชี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทครีซิล บริษัทลูกของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard & Poor’s ในอินเดียกล่าว “อินเดียมีทุนสำรองเพียงพอและบริษัทก็ต่้องการใช้เงินทุน”
ล่าสุดอินเดียมีทุนสรำอง 254,000 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 5 มีนาคม 2010 เทียบกับจีนที่ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2009
นายเมอร์ลี ดีโอรา รมว.กระทรวงน้ำมัน และ นายบี เอส เชาฮัน โฆษกกระทรวงการคลังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
แผนที่ถูกระงับ
ล่าสุดบริษัทซีนุคซึ่งเป็นบริษัทสำรวจน้ำมันต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของจีนตกลงที่จะซื้อหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัทน้ำมันอาร์เจนติน่า ไบรดาส มูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการซื้อกิจการที่มูลค่าสูงที่สุดในรอบ 4 ปีซึ่งซีนุคใช้เงินซื้อกิจการต่างประเทศไปแค่ 6,600 ล้านดอลลาร์ ซีนุคซื้อหุ้นในบ่น้ำมันไนจีเรียในปี 2006 หลังจากรัฐบาลอินเดียระงับแผนการซื้อบ่อน้ำมันนี้ของโอเอ็นจีซี
กองทุน CIC กองทุนความมั่งคั่งแหง่ชาติมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ของจีนได้ลงทุนในบริษัทพลังงานและโลหะไปมากมายเช่นกันในปี 2009 ที่ผ่านมาในหลายๆประเทศทั้งในแคนาดา อินโดนีเซีย และสหรัฐฯขณะที่ธนาคารซีดีบี (China Development Bank) ได้ปล่อยสินเชื่อต้นทุนต่ำมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทซีเอ็นพีซีซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเปโตรไชน่าเพื่อไล่ซื้อกิจการในต่างประเทศเช่นกัน
อุปสงค์ต่อพลังงานเชื้อเพลิงของอินเดียจะสูงขึ้นทั้งนี้เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นขณะที่ปริมาณน้ำมันทีผลิตได้จากแหล่งในประ้เทศลดลง กระทรวงการคัลงอินเดียคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณใหม่ที่เริ่ม 1 เมษายน 2010 เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโต 8%
ขณะที่ตัวเลขจากทบวงพลังงานระหว่างประเทศหรือ ไออีเอระบุว่า ความต้องการใช้พลังงานของอินเดียจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็นค่าพลังงานเทียบเท่าน้ำมัน 833 ล้านตัน หากอัตราการเติบโตยังเป็นเช่นในปัจจุบันซึ่งขับเคลื่อนโดยประชาการที่เพิ่มขึ้นและการเร่งสร้างฐานทางอุตสาหกรรม
ที่มา Bloomberg