รูปภาพ : ท่าเรือเจเบล อาลี (Jebel Ali) ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดที่ดีพีเวิร์ลบริหารอยู่ ภาพเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2007 มูดี้ส์ให้เหตุผลถึงกาค้าโลกที่ช่วยให้บริษัทมีกำไรและฐานะการเงินดีขึ้นต่อเนื่องในการปรับเพิ่มเรตติ้งครั้งนี้
ที่มา : Reuters
บริษัทดีพีเวิร์ล หรือ ดูไบ พอร์ต เวิร์ล กิจการบริหารท่าเรือที่รัฐบาลดูไบเป็นเจ้าของได้รับการเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรตติ้งจากระดับ “ขยะ” เข้าสู่ีะดับน่าลงทุนแล้วโดยบริษัทมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส โดยมูดี้ส์ให้เหตุผลถึง “การฟื้นตัวที่รวดเร็ว” ของผลการดำเนินงาน
อัตราผลตอบแทนบนพันธบัตรอิสลามอายุ 10 ปีซึ่งมีดอกเบี้ยหน้าตั๋ว 6.25% ลดต่ำลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวในรูปของสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินท้องถิ่นซึ่งมีผลกระทบต่อการกู้ยืมเงินมูลค่ากว่า 3,250 ล้านดอลลาร์ ได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 1 ขั้นจากระดับ Ba1 มาที่ Baa3 มูดี้ส์กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล์วานนี้ (จันทร์ที่ 11 เมษายน 2011)
เรตติ้งเหล่านี้ “มีความเหมาะสมเนื่องจากการดำเนินงานของบริษัทที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก, การเติบโตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในการจราจรของตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศเช่นเดียวกับศักนภาพการทำกำไรและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง” นายแฟรงค์ โนวัก นักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ในนครดูไบกล่าวในแถลงการณ์
ดีพีเวิร์ลมีผลการดำเนินงานที่ดีเกินคาดในปีที่แล้ว โดยกำไรเติบโตกว่า 13% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการค้าโลกและอัตรากำไรที่สูงขึ้น กำไรสุทธิเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 374.8 ล้านดอลลาร์จากระดับ 332.9 ล้านดอลลาร์ในปี 2009 ดีพีเวิร์ลซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการท่าเรือใหญ่อันดับที่ 4 ของโลกกล่าวในการแถลงผลการดำเนินงานเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ทางบริษัทกล่าวว่า ปริมาณของตู้คอนเทนเนอร์ที่ทางบริษัทต้องบริหารจัดการในท่าเรือทั้ง 28 แห่งทั่วโลกนั้นเติบโตขึ้น 9% ในปี 2010 มาอยู่ที่เทียบเท่าตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 12 ฟุตจำนวน 27.8 ล้านตู้ เนื่องจากการค้าโลกฟื้นตัว
อัตราผลตอบแทนบนพันธบัตรอิสลามมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ ครบกำหนดไถ่ถอนเดือนกรกฎาคม 2017 ลดลง 0.15% มาอยู่ที่ 6.10% เวลา 18.16 น. ในดูไบ ขณะที่หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 1.6% หรือ 69 เซ็นต์ ถือเป็นระดับราคาที่สูงที่สุดนับแต่เดือนกันยายน 2008
นายโนวัคจากมูดี้ส์ยังเขียนเพิ่มเติมอีกว่า เขาคาดว่าบริษัทดีพีเวิร์ลจะ “ยังคงรักษาระดับของการก่อหนี้สิน (Leverage) ไว้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางเอาไว้โดยการหลีกเลี่ยงการซื้อกิจการขนาดใหญ่ และจะค่อยๆยกระดับความสามารถในการสร้างเงินสด”
ที่มา Bloomberg
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday