ไอ้ตู่ อยากให้วูดดี้ชวนไปออกรายการ หลังสงกรานต์เปิดหนังสือโฉมหน้าคนเผาเมือง –อธิบดีดีเอสไอ” เตรียมยื่นอัยการค้านประกันตัวแกนนำ นปช. และดำเนินคดี “ตู่ จตุพร” ปราศรัยส่อไปในทางหมิ่นสถาบัน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า อยากให้วูดดี้ หรือวุฒิธร มิลินทจินดา ชวนไปออกรายการบ้าง เพราะอยากไปพูดในมิติความจริงรอบด้านให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ จะได้รู้ว่าใครเผาบ้านเผาเมือง ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 หลังสงกรานต์ปีนี้จะออกหนังสือโฉมหน้าคนเผาเมือง
จตุพร พรหมพันธุ์
นายจตุพร กล่าวว่า การปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแเดงเมื่อ10เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อต้องการเตือนคนในรับบาลไม่ให้ใครเอาสถาบันเบื้องสูงมาแอบอ้าง เพราะคนเสื้อแดงล้วนรักประชาธิปไตย และจงรักภักดี เคยเตือนสติไปแล้วตั้งแต่อยู่ที่เวทีราชประสงค์ว่า รัฐบาลไม่ควรแอบอ้างสถาบันมาทำลายคนอื่น และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ควรกล่าวหาคนเสื้อแดงว่าต้องการล้มสถาบัน
เวลา 10.30 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้ถอดเทปคำปราศรัยของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเฉพาะนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย พบถ้อยคำส่อไปในทางดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างรุนแรง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจไม่ถูกต้อง
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ทางดีเอสไอจะดำเนินคดีต่อแกนนำ นปช.ที่ปราศรัยสอดรับไปกับนายจตุพรในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และจะนำหลักฐานคำปราศรัยทั้งหมดยื่นให้พนักงานอัยการพิจารณาถอนประกันแกนนำ นปช.ต่อไป
“ผมได้สั่งการให้พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว พนักงานสอบสวน ที่รับผิดชอบสำนวนคดีล้มเจ้า ประสานไปยังสน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุให้ส่งสำนวนคดีมาให้ดีเอสไอสอบสวน เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีล้มเจ้า ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังกรมทหารพระธรรมนูญให้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีดังกล่าวต่อดีเอสไอด้วย สำหรับการดำเนินคดีเบื้องต้น พบว่าความผิดของนายจตุพรค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากเป็นผู้ปราศรัยปลุกระดม พนักงานสอบสวนจึงต้องเร่งตรวจสอบการกระทำและถ้อยคำการปราศรัยของแกนนำและแนวร่วมคนอื่นๆ ว่ามีรายใดเข้าข่ายเป็นตัวการร่วม”
ผบ.ทบ.สั่งแจ้งความเอาผิด
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มีคำสั่งให้นายทหารพระธรรมนูญ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สำราษฎร์ เพื่อให้มีการดำเนินคดีอาญากับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และ นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช. ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กรณีการปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของกลุ่มนปช.เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2554 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมมอบหลักฐานเป็นซีดีบันทึกการประชุม และเอกสารการถอดคำพูดที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันให้กับตำรวจด้วย
ทั้งนี้ กองทัพบก ขอประณามการกระทำของบุคคลทั้ง 3 และจะไม่ยอมให้ใครกระทำการหมิ่นสถาบัน และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่อง ไม่ให้ใครมาจาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ
อำนวยชี้จตุพรปราศรัยก้าวล่วงสถาบัน
ขณะที่พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวว่า คำกล่าวของนายจตุพร นั้น มีบางช่วงบางตอนไม่เหมาะสม หมิ่นเหม่ และก้าวล่วงสถาบัน แต่ในรายละเอียดนั้นคงไม่เหมาะสมที่จะพูดถึง ทั้งนี้ทางคณะกรรมการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ ได้มีมติข้อที่ 4/53 วันที่ 3 พ.ค.53 กำหนดให้คดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเป็นคดีพิเศษ ซึ่งในคดีนี้ก็เช่นกัน ทางคณะกรรมการจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งดีเอสไอ ส่วนเรื่องที่ทางกองทัพบกได้แจ้งความกล่าวหาแกนนำ 2-3 คน กับสน.สำราญราษฎร์นั้น ก็จะนำเรื่องนี้ไปรวมด้วย
“สำหรับสถานบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะของคนไทย ไม่ควรมีใครละเมิดหรือล่วงเกิน เรื่องนี้ต้องถามว่าเป็นคนไทยหรือไม่ เกิดในแผ่นดินไทยหรือไม่ที่คิดเช่นนี้ ผมไม่ได้หมายถึงนายจตุพร แต่พูดถึงทั่วๆไป และเคยบอกไว้แล้วว่าหากมีคดีเช่นนี้จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน”รอง ผบช.น.กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า ส่วนจะมีใครบ้างที่เข้าข่ายในส่วนนี้จะให้ทางดีเอสไอเป็นผู้ตรวจสอบและดำเนินการ ส่วนเรื่องที่นายจตุพร มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง อยู่นั้น ตอนนี้ถือว่า ยังคุ้มครองอยู่ แต่หากยุบสภาเมื่อใดก็ต้องหมดสมาชิกภาพ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1815 ครั้ง