พล.อ.ชวลิต ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.เป็นต้นไป ให้เหตุผลไม่สบายใจการเมืองเชื่อมโยงสถาบันเบื้องสูง
เมื่อเวลา 17.00น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ส่งหนังสือลาออกผ่านทางโทรสารไปยัง ที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดบระบุว่า ขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (18เม.ย.)เป็นต้นไป ซึ่งท้ายหนังสือได้มีลายเซ็นต์ ของพล.อ.ชวลิต พร้อมแนบ สำเนาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.ชวลิตได้ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากไม่สบายใจเกี่ยวกับการเมืองในขณะนี้ที่มีการเชื่อมโยงกับสถาบันเบื้องสูง
ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้ส่งโทรสารไปยังสำนักข่าวต่างๆ รวมถึงส่งไปให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้แกนนำพรรคเพื่อไทยยับยั้งการลาออกครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนสนิท พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 เม.ย. โดย พล.อ.ชวลิต ระบุว่า รู้สึกอึดอัดใจและกดดันมากในการอยู่กับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากหลายเรื่องที่ได้พูดคุยกัน ภายหลังกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
อย่างไรก็ตามมีรายงานด้วยว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทย 5 คน ประกอบด้วย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายชวลิต วิชัยสุต พล.ท.มะ โพธิ์งาม นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยแล้วเช่นกัน
เสนาะถอย
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกระแสข่าวลาออกจากพรรคเพื่อไทยว่า พูดกันตรงๆ วันนี้ขออยู่เฉยๆ ตราบใดถ้ายังไม่ลดละ และยังไม่เกิดความปรองดองของคนในชาติในแผ่นดิน และขัดนโยบายของตน คือต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ดังนั้น จึงอยากอยู่เฉยๆ เพราะหันไปทางไหน ไม่ว่าจะซ้าย ก็ไม่ไหว หันไปขวาก็ไม่ไหว อย่างนี้บ้านเมืองมันแย่ ในเมื่อเหตุการณ์ออกมาอย่างนี้ตนขี้เกียจไปแก้ตัวกับชาวบ้าน ขออยู่เฉยๆ ไปก่อน
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิตหรือไม่ นายเสนาะตอบว่า “ได้พูดคุยปรับทุกข์กันตามประสาคนแก่ และมีความเห็นต้องกันว่า ขออยู่เฉยๆ ไม่อยากจะเอาอะไรทั้งนั้น เพราะตราบใดที่ยังเล่นกันไม่เลิก ทะเลาะกันไม่เลิก เอาสีนั้น สีนี้ มาทำให้วุ่นวายมาทำให้แตกแยกก็ไม่ไหว ผมเคยบอกแล้วว่าแต่ละสีนั้นมีความหมาย ถ้ายังขืนเล่นกันแบบนี้ ไม่จบ อย่างไรก็ตาม ผมกับ พล.อ.ชวลิตจะไม่ทิ้งบ้านเมือง ไม่ทิ้งความรับผิดชอบ แต่ตอนนี้ขอดูว่าอะไรเป็นอะไรเสียก่อน เพราะเราทั้งสองคนมีจุดยืนเดียวกัน นั่นก็คือ ต้องเป็นเสาหลักให้บ้านเมือง”
เมื่อถามย้ำว่าตัดสินใจเข้าไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือยัง นายเสนาะกล่าวว่า วันนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะยังเป็นเรื่องเฉพาะหน้า ซึ่งที่ได้กล่าวไปเมื่อวันเกิดครบรอบ 78 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์เข้ามาชักชวนในฐานะพี่ๆ น้องๆ เมื่อเขาชักชวนก็ต้องพูดไปแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเขายึดหลักการเดียวกันกับตนก็โอเค ถ้าตรงนี้ไม่เคลียร์ก็ขออยู่เฉยๆ ดีกว่า
ประชา เปิดตูดด้วย
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ว่า ยังรวมถึง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่จะไม่มาร่วมกับพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะขณะนี้ ส.ส.ในพรรคอึดอัดมาก ที่ให้แกนนำคนเสื้อแดงนำพรรค ทำไปทำมาถึงขั้นไปปะทะกับฝ่ายความมั่นคงชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไปสู้กับทหาร
นายไพจิต กล่าวอีกว่า ในวันที่ 18 เมษายน ที่จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย จะยื่นญัตติต่อที่ประชุมพรรคถึงแนวทางไปสู่การเลือกตั้งที่จะไม่เผชิญหน้ากับฝ่ายความมั่นคง จะได้คุยกันให้ตกผลึก ไม่ใช่ปล่อยให้อยู่อย่างนี้ หรือใครอึดอัดก็ไม่กล้าพูด เพราะกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ หรือกลัวไม่ได้ลงสมัคร ที่พูดเช่นนี้เพื่อให้พรรคเดินหน้าไปได้ ไม่เช่นนั้นสู้ต่อไปก็แพ้ ไพร่พลร่อยหรอลงทุกที
“คนมองว่า คนเสื้อแดงคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งการจะเข้าสู่การเลือกตั้งต้องทำให้บรรยากาศดีๆ ไม่ใช่ทะเลาะไม่เลิก เราต้องไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ ชัยชนะจากการเลือกตั้งคือ ชัยชนะที่แท้จริง ดังนั้นถึงเวลาแล้ว พรรคเพื่อไทยต้องทบทวน และคุยกับผู้ใหญ่ให้ชัดเจน ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากยังเดินอยู่แบบนี้จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากับฝ่ายความมั่นคง เห็นได้จากกฎหมายลูก 3 ฉบับเริ่มดีเลย์ ส.ว.ต้องส่งกลับมาให้ ส.ส.พิจารณาอีก ทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป” ไพจิต กล่าว
ไอ้ตู่ยังมึน จิ๋วไม่ออก
ก่อนหน้านี้ เวลา 12.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า กรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช อาจประกาศลาออกจากพรรคโดยไปตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เพราะไม่สบายใจกับคำปราศรัยของตนเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงกระแสข่าวโดยอ้างจากแหล่งข่าว หากฟังคำปราศรัยของตน เป็นการพูดเตือนรัฐบาลว่าอย่านำทหารรักษาพระองค์ ทหารเสือราชินี มาฆ่าประชาชน เพราะจะสร้างความไม่สบายใจให้ประชาชน หากจะนำไปประหารชีวิต ตนก็จะบอกอย่างนี้ คนที่นำทหาร 2 หน่วยนี้มาฆ่าประชาชน ไม่ได้รับโทษ แต่จะมาลงโทษคนที่นำเรื่องนี้มาพูด
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนจะทำความเข้าใจกับ พล.อ.ชวลิตและนายเสนาะหรือไม่นั้น เชื่อว่าพล.อ.ชวลิตเป็นผู้ใหญ่และลูกผู้ชายพอ ไม่มักง่ายหรือถอดใจ โดยฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด สิ่งที่ทำไป ไม่ได้ทำผิด ถ้าคนอย่างตนทำผิดจริง ไม่อยู่เป็นภาระเพื่อนและของพรรคเพื่อไทยหรอก เรื่องตัวเองมันเล็กน้อยมาก อีกทั้ง คนให้ข่าวก็เป็นเพียงแหล่งข่าว ถ้าไม่รู้จริงก็อย่าให้ข่าว
“คำปราศรัยของตนไม่ทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค เพราะถึงผมไม่พูด นายสุเทพ (เทือกสุบรรณ รองนายกฯ) ก็ชี้หน้าพ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกฯ) และคนเสื้อแดงอยู่แล้วว่าจ้องล้มสถาบัน ไปประชุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้นำเรื่องล้มสถาบันมาเป็นคดีพิเศษก็ทำมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งมาได้ช่วงนี้” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า การที่มีส.ส.เพื่อไทยบางคนเสนอให้พรรคกับเสื้อแดงควรแยกกันเดิน เป็นเพียงการอ้างจากแหล่งข่าว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคกับเสื้อแดงต้องแยกกันเดินอยู่แล้ว ข้อเสนอพวกนี้มาจากปากที่มองไม่เห็น โดยไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
“ขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นนักเลงพอ ถ้าเห็นว่าผมเป็นภาระ ผมไม่อยู่ให้เป็นภาระพรรคแน่นอน แต่วันนี้มีพวกจิตอ่อน ที่คิดจะขายตัวอยู่แล้วแต่ยังลังเลอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาตอกลิ่มทันที แล้วเป็นอย่างไรพูดเสร็จ ส.ส.สิงห์บุรี ชลบุรี ลาออกจากพรรคทันที ยืนยันพรรคเพื่อไทยยังไม่มีใครลาออก คนเป็นส.ส.กลัวที่สุดคือการสอบตก ใครออกไป ประชาชนไม่ยอม ไม่ว่าจะไปอยู่พรรคใด ถ้าออกไปจริง ก็มีคนอื่นรอต่อแถวมาเป็นผู้สมัครอีกมาก จนคนทำบัญชีปวดหัวไปหมดแล้ว ในพรรคมีคนจิตอ่อนคิดว่าเมื่อใดจะมีเลือกตั้ง แต่ไม่คิดว่าหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร จะถูกปล้นหรือไม่ วันนี้เราไม่ควรมองศัตรูให้เป็นมิตร คนที่แสดงความเห็นแบบนี้ เอาแต่มุดๆแอบๆ ไม่กล้าออกมา แต่เมื่อถึงเวลาจะรับรางวัลก็โผล่หัวออกมากันสลอน”นายจตุพร กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1727 ครั้ง