สุเทพหนุนทหารปกป้องสถาบัน พร้อมปลุกประชาชนร่วมแสดงออกต่อต้านพวกจาบจ้วง ซัดเสือแดงเป้าหมายชัดเจน อธิบายคงไม่เข้าใจ-ทบ.ให้เพื่อไทยตบปากไอ้ตู่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึง การฝึกความพร้อมของกำลังพลที่1รักษาพระองค์ พร้อมกับยืนยันปกป้องสถาบัน เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ว่า เขาก็ทำหน้าที่ทหาร ส่วนประชาชนทุกคนทั่วประเทศก็ทำหน้าที่ของตัวเอง
“กรณีการปกป้องสถาบัน ทุกคนควรทำในสิ่งที่ควรทำช่วยกันแสดงออก อย่าทำอะไรที่เป็นผลเสียหายกระทบต่อความมั่นคงบ้านเมือง” นายสุเทพ กล่าวย้ำ
กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้ายื่นถอนประกันแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่แสดงพฤติกรรมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ด้วยข้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ กติกา เมื่อ แกนนำได้รับการประกันตัว ศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติตน เมื่อไม่ทำตามเงื่อนไข ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องทำหน้าที่ จากนั้นก็เป็นดุลพินิจของศาล ไม่มีการกลั่นแกล้งอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า จะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่ นายสุเทพ ย้อนกลับสื่อมวลชนว่า พวกเราก็ต้องทำใจเป็นกลาง ถ้าคอยผสมโรงไปด้วยจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไปกันใหญ่ ถามว่า จะทำความเข้าใจกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า แกนนำเสื้อแดงเขาไม่เข้าใจอยู่แล้ว เพราะเขามีเป้าหมายชัดเจนอยู่แล้วว่า จะทำอะไร
กรณีที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกกฎ ระเบียบควบคุมพรรคการเมืองหาเสียงไม่ให้ยุ่งเกี่ยวสถาบันว่า ตนเองเดินตามแนวทางที่นายกฯประกาศไว้ ใครทำถูกกฎหมายก็ชื่นชม ใครกระทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดี ไม่มีการแอบแฝง เพราะนายกฯอยากให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย
ทหารหึ่มปกป้องสถาบัน
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 19 เมษายน ผลพวงจากการปราศรัยของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อค่ำวันที่ 10 เม.ย. ได้สร้างความไม่พอใจของหน่วยทหารออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบัน โดยหน่วยทหารคุมกำลังในเขตกรุงเทพมหานครได้ออกมาแสดงพลังที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) โดย พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ได้ตรวจแถวกำลังพล จาก 1 กองบังคับการกรมทหารราบ และ 2 กองบังคับการกองพันทหารราบกำลังพลรวม 3 กองพัน ประมาณ 1,100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
พล.ต.กัมปนาทกล่าวให้โอวาทกำลังพลท่ามกลางสายฝนว่า พล.1 รอ. และ ร.11 รอ. เป็นหน่วยกำลังหลักของกองทัพภาคที่ 1 มีภารกิจมากมาย ทั้งการป้องกันภัยคุกคามทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อย ขอให้ตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นทหารรักษาพระองค์ เพราะเรายอมได้แม้กระทั่งเสียสละชีวิตเพื่อความมั่นคงของประเทศและความผาสุกของประชาชน นั้นคืออาชีพทหาร
“ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาเน้นย้ำ ทหารคือผู้ที่บูชารักษาเกียรติยศมากกว่าเงินตรา ที่สำคัญผมต้องการให้ทุกท่านได้ยึดมั่นในสัจจะ วาจาที่พวกเราไปถวายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกวันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปี ที่เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา ว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพในพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้าจะคงรักษาไว้ด้วยเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์ จะประพฤติและปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยทุกประการ นี่คือสัจจะ วาจา” พล.ต.กัมปนาทกล่าว
พล.ต.กัมปนาทกล่าวอีกว่า พล.1 รอ. คือทหารของพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นทุกท่านต้องพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาทันที เพราะทหารทุกคนต้องผ่านพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ คือ การปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล 6 ประการ โดยเฉพาะการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด และการไม่แพร่งพรายความลับของทางราชการทหารเป็นอันขาด ทุกอย่างต้องเตรียมความพร้อมให้สามารถพร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขอให้ท่านเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยในคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ขอให้เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาทุกคนคิดเหมือนกัน ผบ.ทบ.คิดอย่างไร ผบ.พล.1 รอ.คิดอย่างนั้น และปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่ต้องคิดลังเล ขอให้เชื่อมั่นแบบนั้น
หลังจากนั้น พล.ต.กัมปนาทให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมความพร้อมรบว่า พล.1 รอ. เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบก เรามีระบบเตรียมพร้อมปฏิบัติการภายใน 30 นาที 1 ชั่วโมง หรือ 3 ชั่วโมง และอย่างช้าไม่เกิน 4 ชั่วโมง เรามีหน้าที่เตรียมกำลังและใช้กำลัง ผู้บังคับบัญชาใช้กำลังเมื่อไร สามารถส่งกำลังให้กับผู้บังคับบัญชาได้ทันที ซึ่งระบบที่แสดงให้เห็นวันนี้คือระบบการเตรียมกำลัง ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งสามารถทำงานได้ภายในครึ่งชั่วโมง ภายใน 1 ชั่วโมงสามารถใช้กำลังได้ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายได้
เมื่อถามว่า ทหารอึดอัดใจหรือไม่ที่มีกลุ่มคนพยายามจาบจ้วงและดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง พล.ต.กัมปนาทกล่าวว่า พวกเราทุกคนเป็นทหารรักษาพระองค์ อยู่ในสายเลือดอยู่แล้วว่าหน้าที่เราคือการปกป้องและเทิดทูน ดังนั้นไม่ต้องชี้แจง เพราะเรื่องนี้อยู่ในใจ
ถามต่อว่า ผบ.ทบ.ออกมาปกป้องสถาบัน แต่ถูกพรรคการเมืองบางกลุ่มกล่าวพาดพิงและโจมตี ทหารรู้สึกอย่างไร พล.ต.กัมปนาทตอบว่า จุดยืนของทหารทุกคนอยู่จุดเดียวกับ ผบ.ทบ. หลังท่านแข็งอยู่แล้วไม่ต้องกลัว พวกเรายืนอยู่หลังท่าน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน และมีจุดยืนเดียวกันทุกกองพลในการปกป้องสถาบันเต็มขีดความสามารถเหมือนคำปฏิญาณ ทุกวันนี้พูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาตลอดว่า ทุกคนต้องยึดถือสัจจะวาจา คำไหนเป็นคำนั้น
ซักกรณี กกต.ระบุว่าห้ามนำเรื่องสถาบันมาเป็นนโยบายหาเสียง พล.ต.กัมปนาทกล่าวว่า ไม่วิจารณ์ เพราะทหารทำหน้าที่อย่างเดียว คือ การเตรียมกำลังกับใช้กำลังเป็นหลัก การเมืองก็ว่าไป ไม่เกี่ยวอยู่แล้ว เพราะเป็นทหาร และคงไม่มีอะไร จะฝากว่าให้เลิกนำสถาบันมายุ่งเกี่ยว พล.ร 1 รอ.ยืนยันว่าปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ผบ.ทบ.สั่งอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ยืนยันอย่างนั้น
“ผมรู้หน้าที่ผมว่าทำอะไร ยืนยันว่ารับผิดชอบในการเตรียมกำลังให้ท่าน และไม่ใช่เป็นการขู่ เป็นเพียงการทำหน้าที่ไปตามปกติ ซึ่งเราเตรียมตลอด ในวันนี้ ผบ.ทบ.ไม่ได้สั่งผม ไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวตอนนี้ด้วย ผมก็ไปทุกหน่วย ร.31 รอ. อย่างอาร์ดีเอฟก็ไปตรวจ เพราะผมรับผิดชอบอยู่ หน้าที่ผมก็คือการเตรียมกำลัง ผบ.ทบ.ใช้กำลัง แค่นั้นแหละ ผมต้องการทดสอบระบบทำตามวงรอบ“ พล.ต.กัมปนาทกล่าว
ทบ.ให้ยงยุทธตบปากไอ้ตู่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยันถึงถึงกรณีกองทัพฟ้อง นปช.ว่า ทำไปโดยหน้าที่ ไม่ได้คิดสิ่งใดแอบแฝง เมื่อการกระทำอันมิบังควรของพรรคใด สีใดเกิดขึ้นช่วงเวลาใดก็ตามกองทัพต้องออกมาปกป้อง ไม่ได้ออกมาเพราะใกล้เลือกตั้งหรือต้องการสนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่ง และกีดกันขัดขวางคะแนนอีกพรรคหนึ่ง
“วันนี้ผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองแสดงจุดยืนแล้ว เป็นสัญญาณที่ดีให้สังคมเกิดความสบายใจได้ว่าการที่มีคนในพรรคกระทำจาบจ้วงสถาบัน ผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่การแถลงข่าวหรือหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องคงไม่พอ ต้องออกมาปรามและตำหนิบุคคลในพรรคที่ได้ออกมาทำผิด” พ.อ.สรรเสริญระบุ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1751 ครั้ง