คนไทยตกใจ ไทยคมจอมืด แจงเหตุไฟฟ้าสถิตย์ ใช้งานได้แล้ว

ไทยคมแจงประจุไฟฟ้าของดาวเทียมไทยคม 5 ขัดข้องทำให้ปิดการส่งสัญญาณอัตโนมัติ ชี้เป็นเหตุสุดวิสัยทางเทคนิค แต่สามารถกู้คืนได้ใน 3 ชั่วโมง ย้ำไม่เกี่ยวการเมือง  

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม ผู้ให้บริการดาวเทียมไอพีสตาร์ หรือ ไทยคม 4 และ ไทยคม 5 เปิดเผยว่า  สาเหตุที่ทำให้ระบบการออกอากาศผ่านดาวเทียมล่มทั่วประเทศเมื่อวันที่ 21 เม.ย. เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง มาจากการที่ประจุไฟฟ้าของดาวเทียมไทยคม 5 บนอวกาศขัดข้อง ซึ่งทำให้ดาวเทียมอยู่ในโหมดปิดตัวเองอัตโนมัติ (Save mode) ส่งผลให้ไม่สามารถส่งสัญญาณมายังภาคพื้นดินได้ 

ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุขัดข้อง ดาวเทียมได้หันตัวเองไปทางดวงอาทิตย์ และหยุดการเคลื่อนไหว ทำให้การใช้งานหลุดไป แต่ไม่ได้หลุดวงโคจรแต่อย่างใดและสามารถใช้เวลากู้คืนภายใน 3 ชม. จากปกติที่กรณีลักษณะนี้ต้องใช้เวลากู้คืนอย่างน้อย 10 ชม.

นายอารักษ์ กล่าวว่า การขัดข้องในลักษณะดังกล่าวไม่มีวิธีป้องกัน เพราะ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบที่ป้องกันไม่ได้  แต่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ โดยไทยคมได้เตรียมการสำรอง (Back up) ไว้ที่ไอพีสตาร์บางส่วน แต่ในส่วนที่จะต้องสร้างดาวเทียมสำรองหรือไม่นั้น รอให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) อนุมัติ

“ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย คือการขัดข้องทางเทคนิค ไม่ใช่เป็นเพราะว่าไทยคมทำ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางการเมือง คือถ้าเป็นผู้ให้บริการรายอื่นมาทำก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้เหมือนกัน”นายอารักษ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม สัญญาณไทยคมกลับสู่สภาพเดิมเมื่อประมาณ 20.00 น. โดยไทยคมจะลดค่าบริการให้กับลูกค้าที่เช่าใช้ช่องสัญญาณไทยคมระหว่างที่ออกอากาศไม่ได้ ซึ่งไทยคม5 ถือเป็นดาวเทียมดวงล่าสุดของไทยคม และทำหน้าที่รองรับลูกค้าในระบบบรอดคาสต์เกือบทั้งหมดของประเทศไทยแทนดาวเทียมไทยคม 3 ที่ปลดระวางก่อนกำหนด  ขณะที่ไอพีสตาร์รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์

ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งไทยคมได้ชี้แจงให้ไอซีทีทราบแล้ว  ขอให้ทุกคนอย่าตกใจและนำไปโยงเกี่ยวกับประเด็นการปฏิวัติ

อนึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 เม.ย. โดยโทรทัศน์ที่ใช้จานดาวเทียมรับสัญญาณไม่สามารถรับสัญญาณได้ในทุกช่อง ส่งผลให้ภาพบนจอเป็นสีดำสนิท ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงกระแสการปฏิวัติอย่างกว้างขวาง ขณะที่ฟากรัฐบาลได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องกล่าวเป็นเหตุขัดข้องทางเทคนิคและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด ก่อนที่สัญญาณดาวเทียมจะเริ่มกลับมารับชมได้ตามปกติในช่วง 19.00น.ในวันเดียวกัน