รูปภาพ : นายอีริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯ
ที่มา : New York Times
คณะทำงานใหม่ของทางการสหรัฐฯจะทำการสอบสวนการฉ้อโกงในตลาดน้ำมันและก๊าซเนื่องจากราคาที่พุ่งขึ้นหนักกระตุ้นให้มีการกล่าวโทษการหากำไรเกินควรและการจงใจทำราคา (Manipulation)
“เราจะทำการสืบสวนเพื่อหาการกระทำผิดในตลาดน้ำมันและก๊าซเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า พวกเขาไม่ได้กำลังจ่ายแพงขึ้นเนื่องจากผลของการกระทำที่ผิดกฎหมาย” นายอีริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯกล่าว
ในเวลาเดียวกัน คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการพลังงานแห่งชาติหรือ FERC (Federal Energy Regulatory Commission) ได้ใช้อำนาจที่ได้มาใหม่ในการสั่งปรับนายไบรอั้น ฮันเตอร์ นักค้าก๊าซธรรมชาติเป็นเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ในข้อหาฝ่าฝืนกฎว่าด้วยการห้ามทำราคาหรือ Anti-manipulation rules ในปี 2006
คณะทำงานใหม่ของรัฐบาลจะทำการตรวจสอบการฉ้อโกงและการทำราคาในระดับของตลาดค้าปลีกและค้าส่งเช่นเดียวกับการสอบสวนการเก็งกำไรในตลาดน้ำมันล่วงหน้าแต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าคณะทำงานชุดนี้จะมุ่งไปที่ประเด็นไหนบ้าง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสงสัยที่มีมานานเกี่ยวกับการเหวี่ยงตัวแรงในตลาดพลังงานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่าเกิดจากปัจจัยพื้นฐานจริงๆหรือไม่ ความสงสัยเดียวกันนี้ถูกตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาอีกเมื่อราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรงในปี 2008 แม้ว่าจะมีการกล่าวหาเป็นการจำเพาะเจาะจงไม่มากก็ตาม
ราคาน้ำมันหน้าปั๊มในสหรัฐฯในขณะนี้อยู่สูงกว่า 4 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในชายฝั่งแถบตะวันตก พุ่งขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์จากระดับเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate ขณะนี้ซื้อขายสูงกว่า 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นั่นกำลังก่อให้เกิดแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนักเพื่อให้มีการออกมาตรการบางอย่างขึ้นมา
“ราคาน้ำมันหน้าปั๊มที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วกำลังสูบเงินออกจากกระเป๋าผู้บริโภคทั่วประเทศ” นายโฮลเดอร์กล่าว
คณะทำงานใหม่นี้จะประกอบไปด้วยตัวแทนจากกระทรวงเกษตร กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการคลัง ธนาคารกลางสหรัฐฯ กรรมการจากคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสัญญาโภคภัณฑ์ล่วงหน้าสหรัฐฯหรือ CFTC (Commodity Futures Trading Commission) และอัยการสูงสุด
“ผมมองไปข้างหน้าถึงงานของคณะทำงานนี้ โดยเฉพาะในการหา้ต้นตอของการฉ้อโกง การกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือการทำราคาในตลาดพลังงาน” นายบาร์ท ชิลตัน กรรมการ CFTC กล่าว “ผมยังคงเชื่อว่า การเก็งกำไรเกินตัวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาและควรจะเป็นส่วนหนึ่งของจุดเน้นของคณะทำงานด้วย”
การก่อตั้งคณะทำงานชุดนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากวุฒิสมาชิกแจ๊ค รีด และ คาร์ล เลวิน ซึ่งทั้ง 2 ต่างเรียกร้องให้มีกาีรก่อตั้งคณะทำงานในลักษณะนี้มาแล้วในจดหมายที่เขียนถึงปรธานาธิบดีโอบามาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“การเก็งกำไรเกินตัวในวอลล์สตรีทสามารถดันราคาเชื้อเพลิงไปยังเมนสตรีทได้ (หมายถึงประชาชนทั่วไป) คณะทำงานชุดนี้ต้งมุ่งการตรวจสอบที่เข้มข้นไปที่การจงใจทำและบิดเบือนราคาซึ่งเป็นต้นเหตุของราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นต่อผู้บริฏภคสหรัฐฯเอง” วุฒิสมาชิกแจ๊ค รีด พรรคเดโมแครตจากรัฐโรดไอแลนด์สกล่าว
นายฮันเตอร์อดีตนักค้าพลังงานจากอามารันธ์ แอดไวเซอร์ส (Amaranth Advisors) ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์สัญชาติสหรัฐฯ ได้สูญเสียเงินเป็นจำนวนกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติในตลาดล่วงหน้าหรือฟิวเจอร์สในปี 2006
“ฮันเตอร์ขายสัญญาฟิวเจอร์สในจำนวนที่มีนัยสำคัญช่วงระหว่างการชำระราคาในเดือนที่มีการเริ่มออกสัญญาฉบับนั้นๆโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อกดราคาให้ต่ำลงและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญในสถานะที่ถือไว้ในตลาดอนุพันธ์ที่ซื้อขายในกระดานอื่นๆ” แถลงการณ์ของ FERC ระบุ
FERC ซึ่งทำหน้าที่กำกับดุแลตลาดการส่งมอบพลังงานใสหรัฐฯมนชั้นแรกในกล่าวหานายฮันเตอร์และนักค้าอีกรายว่ามีพฤติกรรมจงใจทำราคาก๊าซในการร้องเรียนเมื่อปี 2007 นั่นส่งผลให้เกิดการจ่ายค่าปรับในปี 2009 แต่ FERC ยังได้ดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดนายฮันเตอร์ภายใต้กฎหมายที่ผ่านโดยสภาคองเกรสซึ่งขยายอำนาจของ FERC ในการต่อสู้กับการจงใจทำหรือปั่นราคาในตลาด
ด้านนายฮันเตอร์แย้งว่า FERC ไม่มีหลักฐานการจงใจทำราคาตลาดโดยตรงและกล่าวว่าเขาทำการซื้อขายก๊าซธรรมชาติในตลาดล่วงหน้าไม่ใช่ตลาดกายภาพของก๊าซจริงๆ และดังนั้นจึงไม่อยู่ภายใต้ขอบข่ายอำนาจของ FERC “FERC ไม่มีขอบเขตอำนาจตามที่สภาคองเกรสและ CFTC ระบุ ฉะนั้นแล้วนั่นจึงหมายความว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” นายไมเคิล คิมจากสำนักกฎหมายโคเบอร์และคิม (Kobre & Kim) ซึ่งเป็นตัวแทนนายฮันเตอร์กล่าว
ฝ่ายกฎหมาย FERC ได้พบว่า การซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามีผลกระทบต่อราคาก๊าซที่มีการซื้อขายและส่งมอบตัวก๊าซจริงๆ “ในการตั้งค่าปรับที่ 30 ล้านดอลลาร์นั้น คำสั่งในวันนี้มีข้อสรุปว่า เงินจำนวนนี้เหมาะสมและเพียงพอที่จะยับยั้งไม่ให้นายฮันเตอร์และคนอื่นๆข้องแวะการทำราคาในตลาดได้” FERC ระบุ
นายฮันเตอร์จะยื่นอุทธรณ์เพื่อการไต่สวนอีกครั้ง แหล่งข่าวจากบุคคลที่ใกล้ชิดเขาระบุ โดยจะทำการยื่นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์ของประเทศในกรุงวอชิงตัน
อามารันธ์ก่อนหน้านี้ได้สะสางข้อกล่าวหาของ FERC และ CFTC โดยยินดีที่จะจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 7.5 ล้านดอลลาร์ในปี 2009 ซึ่งแยกต่่างหากจากกรณีของนายฮันเตอร์
ที่มา Financial Times
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday