รูปภาพ : นายปีเตอร์ เอียร์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารและผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางชื่อดัง
ที่มา : IRNA
การขยายตัวและความเข้มข้นของการประท้วงของฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศอาหรับจำเป็นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุวุ่นงายต่างๆ นายปีเตอร์ เอียร์ (Peter Eyre) นักวิเคราะห์ด้านตะวันออกกลางกล่าว
“สถานการณ์ที่เราเห็นในปัจจุบันคือการแตกตัวออกมาจากการล่มสลายของเศรษฐกิจโลก” นายเอียร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่าน
นักวิเคราะห์ท่านนี้ใช้เวลาส่วนมากในชีวิตในและรอบๆตะวันออกกลางทั้งในวงการการทหารและที่ปรึกษา
“หากว่าเราสามารถเรียกคืนมาตรการอัดฉีดเงินมหาศาลที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการอุ้มธนาคารหลายแห่ง แต่สิ่งที่โลกไม่เข้าใจคือความจริงที่ว่า การล่มสลายครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีทันใดแต่จริงๆแล้วเป็นการพังทลายที่มีการวางแผนมาอย่างดี” เขากล่าว
นายเอียร์กล่าวเสริมอีกว่า ในโลกตะวันตก เงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ถูกหยิบออกมาจากเงินในคลังของรัฐบาลและยื่นให้ธนาคารต่างๆนั้น แต่ว่า “จากนั้นใครซึ่งตอนนั้นเราไม่ครรู้จักได้นำเงินเหล่านี้ไปลงทุนต่อในเครือข่ายธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลของพวกเขาเอง”
“นั่นสามารถก่อให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาลได้ทั่วโลกส่งผลให้มีคนตกงานมากขึ้นและที่สำคัญกว่านั้นคือ ได้ดันให้ราคาโภคภัณฑ์ต่างๆสูงขึ้นด้วย” เขากล่าว
ในโลกตะวันตก การพังทลายทางเศรษฐกิจได้นำไปสู่การขอเงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจในหลายๆประเทศของยุโรปซึ่งรวมถึงไอร์แลนด์ด้วย ซึ่งนั่นได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลด้วยและไม่นานมานี้ในโปรตุเกสซึ่งได้มีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้นในเดือนมิถุนายน
ที่ปรึกษาด้านตะวันออกกลางท่านนี้ยังมองด้วยว่า สงครามที่สหรัฐฯและอังกฤษสู้รบอยู่ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมานั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งให้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์พื้นฐานอื่นๆพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย
“เราสามารถมองเห็นความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการพังทลายของระบบการเงินโลกและความไม่สงบในตะวันออกกลางและในประเทศอื่นๆทั่วโลก” เขากล่าว
“การส่างงานสูงยังคงเป็นประเด็นใหญ่และความจริงที่ว่าสิ่งต่างๆเช่น แก๊ส, ไฟฟ้า, น้ำ และอาหารในตอนนี้ราคาอยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั้งสิ้นซึ่งนั่นได้ผลักให้ผู้คนเข้าสู่ความยากจนมากขึ้น”
“เมื่อผู้คนถูกผลักไปจนถึงจุดๆหนึ่ง พวกเขาจะเริ่มเปรียบเทียบกันระหว่างคนรวยกับคนจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากว่าพวกเขาเห็นว่าการฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นสาเหตุสำคัญประการหรึ่งหรือเห็นว่าประเทศของพวกเขากำลังถูกแทรกแซงโดยต่างชาติแม้ว่าผู้นำของเขาจะอิงตะวันตกก็ตาม” นายเอียร์เสนอ
“เราได้เริ่มเห้นประเทศต่างๆเริ่มพังทลายลงเนื่องจากประชาชนลงมาประท้วงบนท้องถนนเพื่อต่อต้านผู้กุมอำนาจในปัจจุบัน แต่เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่า เหตุการณ์บางส่วนนั้นอาจถุกจุดชนวนขึ้นจากปฏิบัติการลับต่างๆเช่น จากหน่วยพิเศษ, ซีไอเอ, เอ็มไอ 5 และม็อสซาด (หน่วยข่าวกรองอิสราเอล)” เขากล่าวเสริม
นายเอียร์ยังได้อ้างถึงเหตุการณ์ในลิเบียในฐานะตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดซึ่ง ชาติตะวันตกได้กล่าวหาพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ว่า ได้สังหารประชาชนหลายพันคนด้วยอาวุธที่ชาติตะวันตกเองเป็นคนส่งมอบให้และเราสามารถมองได้ว่าเหตุการณ์นี้เป็น “วิธีการที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ตีสองหน้า”
เมื่อพูดถึงวิธีการที่ชาติตะวันตกสนับสนุนฝ่ายต่อต้านกัดดาฟี่ซึ่งมีฐานอยู่ในเบงกาซี เขากล่าวว่า ตอนนี้ “ไม่มีกองกำลังกลุ่มกบฏขนาดใหญ่ในลิเบียแต่เต็มไปด้วยกลุ่มต่างๆที่แตกแขนงและไร้ระเบียบโดยสิ้นเชิงของนักรบอิสระต่างๆที่ดูสับสนผู้ซึ่งไม่มีความคิดว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติดังเดิม”
“สถานการณ์ในตอนนี้สามารถนำลิเบียไปสู่เศรษฐกิจที่ถุกครอบงำโดยตะวันตกซึ่งคอยแต่จะสูบทรัพยากรของประเทศออกไปโดยที่ลิเบียจะได้สิ่งตอบแทนกลับมาน้อยมาก” เขากล่าวเตือน
อีกจุดหนึ้งก็คือว่า “ผู้เล่นตัวหลักจำนวนมากในตอนนี้คือพวกที่มาจากต่างประเทศและกลุ่มบุคคลซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนและชนเผ่าต่างๆในลิเบีย”
“เราต้องมีความกังวลอย่างหนักบางอย่างว่า ชาติตะวันตกกำลังสนับสนุนกลุ่มอำนาจใหม่ซึ่งเราไม่รู้จักเลยและท้ายที่สุดจะทำลายเจตจำนงทั้งหมดของพวกเขาด้วยตัวของเขาเอง”
เมื่อเดือนมีนาคม เขาได้เตือนว่า การแทรกแซงทางทหารในลิเบียโดยกองกำลังตะวันตกจะนำไปสู่ “ซากศพนับไม่ถ้วนในสิ่งซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ไร้ความสมดุลและไม่ปกติ”
ที่มา สำนักข่าว IRNA
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday