ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศว่า โอซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ที่อยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรม 11 กันยายน เสียชีวิตแล้ว และความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว
วันที่ 2 พ.คต. บารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อคืนวานหรือตรงกับเวลา 10.30 น.เช้านี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่าโอซามะห์ บิน ลาดิน เสียชีวิตภายในที่ซ่อนตัวของเขาในปากีสถานจากปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินของกองกำลังสหรัฐ และสามารถนำศพของเขามาได้ พร้อมกันนี้เขาเปิดเผยว่า ได้รับรายงานสรุปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่าสามาถได้เบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของบิน ลาดิน ว่าซ่อนตัวอยู่ในปากีสถาน และเขาเพิ่งอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ดำเนินการจับตัวบิน ลาเดน
บิน ลาดิน เป็นศัตรูหมายเลข 1 ที่สหรัฐต้องการตัวมากที่สุด และได้ตั้งรางวัลนำจับไว้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์หรือราว 750 ล้านบาท เนื่องจากเขาเป็นผู้บงการก่อวินาศกรรมช็อคโลกที่ใช้เครื่องบินพุ่งชนตึก 2 ลำชนตึกเวิลด์เทรด เซนเตอร์ในนครนิวยอร์ก และอีก 1 ลำชนตึกกระทรวงกลาโหมในกรุงวอชิงตัน ส่วนอีกลำตกลงกลางทุ่งก่อนถึงเป้าหมายในรัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 3,000 ราย
โอบามาบอกว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีที่บิน ลาเดนได้เป็นผู้นำและสัญลักษณ์ของอัลกออิดะห์และได้วางแผนโจมตีสหรัฐ และชาติพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง การเสียชีวิตของเขาจึงเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดสำหรับความพยายามของสหรัฐในการกวาดล้างเครือข่ายอัลไกด้า แต่การเสียชีวิตของเขาไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดความพยายามปราบปรามการก่อการร้าย เพราะแน่นอนว่าอัลไกด้าจะยังพุ่งเป้าก่อเหตุโจมตีสหรัฐอีกต่อไป และเราต้องระมัดระวังเพื่อปกป้องพลเรือนชาวอเมริกันและชาติพันธมิตร แต่เวลานี้เราสามารถบอกกับครอบครัวที่สูญเสียคนรักในเหตุก่อการร้ายฝีมืออัลไกด้าว่า ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว
หลังมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของบิน ลาดน มีฝูงชนชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งมารวมตัวกันที่ด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ตะโกนว่า ยูเอสเอ ยูเอสเอ บางคนโบกธงชาติและชูกำปั้นขึ้นพร้อมกับร้องเพลงชาติสหรัฐ ตั้งแต่ก่อนที่โอบามาจะออกมาแถลงข่าว ฝูงชนเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วจากเพียงไม่กี่สิบคนเป็นหลายร้อยคนนอกจากนี้ข่าวแพร่สะพัดทางอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค บางคนโพสข้อความว่า ในที่สุดเขาก็สามารถนอนหลับได้ในคืนนี้หลังทราบข่าวและบอกว่ามีความสุขมาก
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1318 ครั้ง