ประเทศคาซัคสถาน ผู้ส่งออกทองแดงรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียกลางวางแผนเพิ่มการผลิตทองแดงในรูปของคอปเปอร์แคโธดอีก 95,000 ตันต่อปี หรือ เพิ่มขึ้นเกือบ 24% จากการผลิตในปัจจุบันภายในเวลา 5 ปี นายอาเซ็ต อิเซเกเชฟ รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
รมว.อุตสาหกรรมได้กล่าวในการประชุมเหมืองแร่ของคาซัคสถานเมื่อวันพุธที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาว่าในส่วนของบริษัทคาซัคมิส (Kazakhmys) จะมีการเพิ่มผผลผลิตจำนวน 25,000 ตันต่อปี ขณะที่บริษัทคาสซิงค์ (Kazzinc) ซึ่งบริษัทค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติสวิสนาม เกลนคอร์ (Glencore) เป็นเจ้าของอยู่จะเพิ่มการผลิตในส่วนที่เหลือคือ 70,000 ตัน
ปัจจุบันคาซัคสถาน ประเทศอดีตสหภาพโซเวียตซึ่งมีประชากร 16 ล้านคน ผลิตทองแดงในรูปของคอปเปอร์แคโธดจำนวน 400,000 ตันต่อปี นายอิเซเกเชฟกล่าวในที่ประชุม
บริษัทคาสนิคได้ออกมาเปิดเผยว่าทางบริษัทเตรียมเปิดเหมือแร่แห่งใหม่มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ในภาคตะวันออกของประเทศใกล้ชายแดนจีนซึ่งขณะนี้กลายเป็นผู้บริโภคทองแดงอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว
ขณะที่คาซัคมิสก็เตรียมเปิดเหมืองใหม่ที่บอสเชกุลภายในปี 2014 ซึ่งจะสามารถผลิตทองแดงในรูปของคอนเซนเทรต (Concentrate) ได้ 100,000 ตันต่อปี
คาซัคมิสยังกล่าวอีกว่า บอสเชกุลยังตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าจากจีนได้สะดวกขึ้น ล่าสุดธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งจีนหรือซีดีบี (China Development Bank) ได้ปล่อยกู้ให้กับคาซัคมิสจำนวน 2,700 ล้านดอลลาร์เป็นเวลา 15 ปีด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่อัตรา Libor ในตลาดเงินลอนดอนบวกอีก 4.8% (LIBOR + 4.8%)
นอกจากนั้นนายโอเล็ก โนวาชุค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาซัคมิสยังกล่าวในการประชุมนี้อีกว่าขณะยี้บริษัทคาซัคมิสกำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อขยายการลงทุนในโครงการอื่นๆเพิ่มเติม
“เรากำลังคุบกับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ของเราและหวังที่จะให้ตลาดรับทราบเกี่ยวกับผลการเจรจาภายในสิ้นปีนี้” นายโนวาชุคกล่าวเพิ่มเติม “เราต้องการ 2,000 ล้านดอลลาร์”
อย่างไรก็ตามนายโนวาชุคไม่ได้เปิดเผยว่าใครเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กล่าวแต่เพียงว่าหุ้นส่วนเหล่านี้จะเข้ามาถือหุ้นในโครงการต่างๆที่บริษัทจะลงทุน
คาซามิสกล่าวว่า เหมืองที่อัคโตไกซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของคาซคสถานสามารถผลิตทองแดงได้ 150,000 ตันต่อปี และมีทองแดงสำรอง 5,600,000 ตัน
นายโนวาชุตยังออกมาเปิดเผยอีกว่า คาซัคมิสจะลงทุนอีก 370 ล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้
ที่มา Reuters